เทรนด์กัญชา 2567 ตลาดแข่งเดือด-นายทุนทะลัก คนไทยต้องยกระดับสู้ต่างชาติ
1 min read
ตีโจทย์อุตสาหกรรมกัญชาของประเทศไทยในปีมังกรทอง 2567 นับเป็นอีกปีที่ภาคธุรกิจโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ท่ามกลางเกมการตลาดแข่งขันที่รุนแรงและการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองดีมานต์การบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น แม้จะเดินบนความท้าทายของกฎหมายที่ยังไม่แน่ว่าจะออกมาแบบไหน แต่สตาร์ทอัพสายเขียวชาวไทยไม่ลังเลที่จะเปิดกิจการและขยายร้านกัญชาเพิ่มขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่รุกเข้ามาลงทุนแบบครบวงจร ไม่เว้นแม้แต่แบรนด์กัญชาระดับโลกที่ต่างเข้ามายึดหัวหาดตลาดบ้านเราไปเรียบร้อยแล้ว
ปี 2567 เป็นอีกปีที่กิจการร้านค้ากัญชาจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะยอดทะลุ 10,000 ร้านค้าในปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เชียงใหม่ พบว่ามียอดขายถล่มถลายในช่วงไฮซีซัน ส่งผลให้สามารถยืนราคาขายที่สูงได้ ขณะที่ร้านค้าในโซนอื่นๆ เช่น กรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ พบการแข่งขันเดือด ผู้ประกอบการแย่งกันลดราคาเพื่อดึงลูกค้า ขณะที่ร้านกัญชาแบรนด์ระดับโลกต่างเข้ามาลงทุนแบบครบวงจรกันพร้อมหน้า ประกอบกับตัวบทกฎหมายกัญชาที่ยังไม่แน่นอน จึงเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการหลายเจ้ารีบเร่งขอใบอนุญาตจำหน่ายกัญชาก่อนที่ พรบ.กัญชาจะออกมาเพราะเชื่อว่ากฎหมายใหม่จะทำให้การออกใบอนุญาตมากยิ่งขึ้น ส่วนผู้ค้ารายเก่าต่างหาช่องทางปรับตัวรองรับบริบทร้านกัญชาเชิงการแพทย์
ร้านกัญชาคึก
2567 เป็นอีกปีที่กิจการร้านค้ากัญชาจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะยอดทะลุ 10,000 ร้านค้าในปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว ภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย เชียงใหม่ พบว่ามียอดขายถล่มถลายในช่วงไฮซีซัน ส่งผลให้สามารถยืนราคาขายที่สูงได้ ขณะที่ร้านค้าในโซนอื่นๆ เช่น กรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ พบการแข่งขันเดือด ผู้ประกอบการแย่งกันลดราคาเพื่อดึงลูกค้า ขณะที่ร้านกัญชาแบรนด์ระดับโลกต่างเข้ามาลงทุนแบบครบวงจรกันพร้อมหน้า ประกอบกับตัวบทกฎหมายกัญชาที่ยังไม่แน่นอน จึงเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการหลายเจ้ารีบเร่งขอใบอนุญาตจำหน่ายกัญชาก่อนที่ พรบ.กัญชาจะออกมาเพราะเชื่อว่ากฎหมายใหม่จะทำให้การออกใบอนุญาตยากมากยิ่งขึ้น ส่วนผู้ค้ารายเก่าต่างหาช่องทางปรับตัวรองรับบริบทร้านกัญชาเชิงการแพทย์
ปลูกกัญชาไทยสู่ยุคใหม่
อุตสาหกรรมต้นน้ำอย่างการเพาะปลูกกัญชาไทยในปี 2567 เราจะได้เห็นการดัมซ์ราคาขายส่งอย่างเอิกเกริก มีโอกาสที่ราคาอาจลงไปต่ำกว่า 60 บาท/กรัม เนื่องจากปริมาณการผลิตเข้าขั้น Over-supply จึงกดดันกลไกราคา ดังนั้นปีนี้จะมีพัฒนาการด้านมาตรฐานการเพาะปลูกของผู้เล่นรายใหญ่เพื่อรองรับการส่งออกในอนาคต อาทิ GAP GACP และ EU-GMP ปัจจุบันต้องบอกว่าไทยเป็นหนึ่งในฮับขนส่งกัญชาใต้ดินไปต่างประเทศปริมาณมหาศาล ถึงขั้นมีนายทุนวิ่งรับซื้อหน้าฟาร์มปริมาณนับพันต้น ขณะที่ทฤษฎีการตลาดจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการกระจายผลผลิตเป็นสิ่งที่นักปลูกไทยต้องคิดในปีนี้ เพราะบริษัทกัญชาข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่เข้ามาลงทุนมีความพร้อมมากพอๆกับเรื่องการควบคุมต้นทุนการผลิต ส่วนด้านเทรนด์สายพันธุ์กัญชาที่จะได้รับความนิยม CWT มองว่ายังคงเป็นกลิ่นผลไม้ กลิ่นความหวานและความเข้มของแก๊ส (Tutti-Frutti + Sweety + Gassy) ควบคู่ไปกับการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ตามเทรนด์ต่างประเทศ เราจะได้เห็นดอกไม้ Exotic แปลกใหม่จากหลายฟาร์มให้ได้ลิ้มลองกัญในปีนี้
ผลิตภัณฑ์ใหม่มาแรง
ปี 2567 จะเป็นปีที่อุตสาหกรรมกัญชาไทยก้าวไปสู่การแตกแขนงโปรดัคส์ใหม่ๆที่ไม่ใช่แค่ช่อดอก ปีนี้เราจะเริ่มเห็นการแบ่งคลาสของตลาด เช่น ตลาดใบทริม ตลาดช่อดอก และตลาดสารสกัดแปรรูป โดยเฉพาะตลาดลักซัวรี่และสมาร์ทยูสเซอร์คาดว่าจะเติบโตได้อย่างดี ตามดีมานต์ของสารสกัดใหมๆที่เกิดขึ้น ทั้ง Rosin, Live Resin, Live Sugar และ Hash ขณะที่กลุ่ม smart users ที่เน้นความสะดวกสบายมีแนวโน้มหันมาใช้ Vape Pen แบบมีลุ้นเติบโตเพิ่มมากขึ้นควบคู่ไปกับเครื่องอบสมุนไพรไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบที่จะเปิดตัวในไทยปีนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องวางกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่
“ภาพรวมตลาดในปี 2567 การแข่งขันจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผู้ที่อยู่รอดคือกลุ่มที่เข้าใจโมเดลธุรกิจกัญชา ซึ่งต้องเผชิญการแข่งขันที่หนักกว่าที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจำเป็นต้องอัพเกรดธุรกิจให้สอดรับกับมาตรฐานกัญชาโลกเพื่อความอยู่รอดของกิจการและโอกาสในการส่งออกไปต่างประเทศซึ่งเริ่มทยอยเปิดเสรีกัญชามากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนภาพลักษณ์กัญชายังคงติดลบในสายตาคนไทย เป็นอีกล็อคสำคัญที่ฉุดรั้งอุตสาหกรรมทั้งระบบหากยังไม่มีใครให้ความสำคัญเรื่องความรู้และความเข้าใจพืชกัญชาเพื่อกำจัดมายาคติในหัวคนไทย”
