Channel Weed Thailand

แหล่งข่าวจากกรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า กรมการแพทย์ฯอยู่ระหว่างพัฒนาระบบอบรมหลักสูตรบัดเทนเดอร์เพื่อเปิดออนไลน์ พร้อมกันนี้ยังได้มีแนวคิดการจัดทำแอปพลิเคชันเพื่อระบบ Telemed เพื่ออกใบ ภท.33 ไปจนถึงระบบตรวจสอบติดตามปุ๊นแบบ (Seed to Sale) ซึ่งกรมการแพทย์ฯ ได้พิจารณาใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนราว 1,700 ล้านบาท เพื่อซื้อระบบดังกล่าว...

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน เปิดเผยในรายการคนกัญเองว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลสมัยนั้นสนับสนุนให้ปุ๊นถูกกฎหมายเพื่อกระจายเศรษฐกิจสู่ฐานรากด้วยโมเดลวิสาหกิจชุมชน สำหรับประเด็นเรื่องรัฐบาลในชุดปัจจุบันที่อาจนำปุ๊นกลับสู่ยาเสพติดนั้น ตนเองไม่เห็นด้วยที่จะนำกลับไปสู่ ยส.5 เนื่องจากรัฐบาลไทยได้เคยปลดล็อคกฎหมายให้สามารถดำเนินการได้อย่างแพร่หลายแล้วและเกิดการท่องเที่ยวเชิงปุ๊น (Weez Tourism) ดังนั้นการนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางการลงทุนของต่างชาติในทุกอุตสาหกรรม เนื่องจากกฎหมายไทยมีมีความศักดิ์สิทธิ์ มีโอกาสเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ทุกเมื่อ ทำให้ธุรกิจต่างๆไม่มีความแน่นอนในการดำเนินงาน“ประเทศไทยควรมีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติเพื่อควบคุมปุ๊น โดยควรมีการเปิดกว้างให้มีได้เสียทุกภาคส่วนได้ร่วมกันออกแบบ โดยต้องมีฉบับภาคประชาชนร่วมด้วย ผมไม่อยากให้มีผู้มีอำนาจจากแค่พรรคใดพรรคหนึ่งเป็นคนชี้นำการแก้กฎหมายทั้งหมดโดยไร้การมีส่วนร่วม” นายเฉลิมพงศ์...

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐสภาเสนอให้นำกระท่อมกลับสู่บัญชียาเสพติดว่า รัฐบาลมีจุดมุ่งหมายการนำปุ๊นกลับเป็นยาเสพติด แต่ยังมีบางพรรคที่อยากให้เป็นพืชควบคุม ส่วนกระท่อมนั้นพบว่ามีการขายเกลื่อนจนเกิดปัญหาและไม่มีกฎหมายควบคุมที่เหมาะสม ดังนั้นในหลักการของฝ่ายนิติบัญญัติอะไรที่ออกเพื่อความดีต้องกล้าทำ ซึ่งตนได้หารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการออกกฎกระทรวงเพื่อให้ตำรวจจับได้ “ตามอำนาจในกฎหมาย กำหนดให้รัฐมนตรียุติธรรม และรัฐมนตรีสาธารณสุข ออกกฎกระทรวงไม่ให้นำกระท่อมมาวางขายบนถนน ซึ่งกฎกระทรวงต้องเร่งออกเร็วๆ นี้ หากไม่มี ต้องใช้กฎหมายทางหลวงไปบังคับใช้...

จากกรณีที่นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ยื่นหนังสือต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้แก้ไขปัญหาซึ่งกลิ่นปุ๊นนั้นทำให้นักท่องเที่ยวมาไทยลดลง จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสายเขียวจำนวนมากล่าสุด นายเฉลิมพงศ์ เปิดเผยในรายการคนกัญเองว่า ปัญหาปุ๊นฉุดการท่องเที่ยวเป็นเพียงส่วนน้อย ซึ่งตลาดเที่ยวไทยยังมีปัจจัยอื่นฉุดรั้งอีกมาก เช่น ฟรีวีซ่าและความไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามมองว่าการท่องเที่ยวไทยรวมถึงภูเก็ตเองยังคงต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงปุ๊น (Weez Tourism) ซึ่งสามารถกระจายเม็ดเงินให้กับท้องถิ่นได้จริง โดยนโยบายของพรรคประชาชนก็สนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจใหม่ที่คนรากหญ้ามีโอกาสเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม แต่พรรคยังไม่เห็นด้วยกับการออกกฎควบคุมที่ยังไม่รอบคอบ เกิดปัญหาในการบังคับใช้จึงต้องการทบทวนกฎหมายปุ๊นใหม่เพื่อเอื้อต่อการควบคุมและไม่ก่อความเดือดร้อนให้นักท่องเที่ยวนายเฉลิมพงศ์...