จับโป๊ะ!? ไทยด้อยค่าปุ๊น แต่สุราเสียหายมากกว่า 4 เท่า คร่าคนไทย 5.7 หมื่นคน/ปี
1 min read
ตาสว่าง!? ศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพติดระบุปุ๊นทำเสียหายเชิงสุขภาพ 15,000 ล้านบาท จี้รัฐควบคุมอ้างเป็นความเสียหายของชาติ สวนทางความชิบหายของคนดื่มสุรา คร่าคนไทยปีละ 57,000 หมื่นคน ในรอบ 5 ปี มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ มากกว่า 284,000 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 370,000 ล้านบาท หรือปีละ 57,000 ล้านบาท ขณะที่ปุ๊นมีผู้เสียชีวิตไม่กี่คน และมีแค่เรื่องกลิ่นที่ไม่ทำให้ใครตุย แต่รัฐไทยกลับโจมตีปุ๊นและอนุญาตเปิดขายสุราเสรี 24 ชั่วโมง พร้อมมาตรการควบคุมที่แตกต่างจากปุ๊นเกือบทุกด้าน
วาทกรรมปุ๊นดัดจริต หรือ ฝังกลบความต่ำตมประเทศที่ติดสุราเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ส่องข้อมูลของ World Beer Index พบว่า ประเทศไทยถูกจัดเป็นอันดับ 1 ในเอเชียด้านการดื่มเบียร์ ในปี 2564 และเป็นประเทศที่จ่ายเงินซื้อเบียร์มากที่สุดต่อคนต่อปี ส่วนอัตรการดื่มสุราเฉลี่ยคนละ 8.47 ลิตรต่อปี ทุกครอบครัวมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ คิดเป็นร้อยละ 43 ของรายจ่ายทั้งหมด ทั้งที่ตัวเลขหนี้ครัวเรือนสูงทะลุ 90% แต่คนไทยยังไม่ลดละสุรา สะท้อนเป็นชาติที่เสพติดสุราเกินไปหรือไม่ แต่กลับดัดจริตกับกลิ่นปุ๊น เมื่อดูจากตัวเลขเด็กติดสุราที่สูงมากกว่า 4.2 ล้านคนต่อปี สูงกว่าคนใช้ปุ๊นที่รัฐกล่าวอ้างเกือบ 2 เท่า (1.6 ล้านคน) ดังนั้นการตีฟูประเด็นด้อยค่าปุ๊นนั้นสอดคล้องกับอัตราของไทยที่มีคนใช้ปุ๊นคิดเป็นเพียงไม่ถึง 1% ของโลก (จาก 200 ล้านคน) หรือไม่ ขณะที่การดื่มเบียร์ติดอันดับ 1 ใน เอเซีย
เมื่อย้อนกลับมามองปุ๊นไทยแล้ว สถิติที่รัฐไทยหรือหมอการเมืองมักนำมากล่าวอ้างนั้นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าปุ๊นทำให้คนไทยเสียชีวิตและสูญเสียมากมายเมือ่เทียบกับสุราได้อย่างไร แล้วเหตุใดการบริโภคสุราไม่ต้องมี GACP ไม่ต้องมีใบแพทย์ และเงื่อนไขมากมายเช่นห้ามบริโภคในร้าน ดังนั้นการปั้นน้ำเป็นตัวของรัฐบาลชุดนี้ส่อเป็นการบีบบังคับอุตสาหกรรมปุ๊นไทย แทบจะตรงข้ามกับกลุ่มสุราทุกข้อ ไม่ว่าจะ ห้ามโฆษณา ห้ามขายนอกสถานที่ เงื่อนไขด้านทุนการผลิต GACP ไปขนถึงการห้ามขายออนไลน์ เริ่มจากคำถามง่ายๆ ทำไมสุราดื่มในร้านได้ แต่ปุ๊นกลับห้ามใช้ในสถานบริการ??
การอ้างปุ๊นเป็นยาเสพติดคงยังฟังไม่ขึ้น เพราะงานวิจัยฉบับล่าสุดของสำนักวิจัยแห่งชาติของญี่ปุ่น Japanese Clinical Association พบว่า ปุ๊น ‘เสพติดน้อยกว่า’ สุรา สอดคล้องกับงานวิจัยสหรัฐจำนวนมากที่พบว่า ปุ๊นเสพติดน้อยกว่า สุรา บุหรี่ กาแฟ น้ำตาล หรือแม้แต่พฤติกรรมการเสพติดมือถือ สอดรับกับข้อมูล Gen Z ในประเทศที่เจริญแล้วหันมาใช้ปุ๊นทดแทนสุรามากขึ้น เพราะมองว่าสมุนไพรปลอดภัยกว่าสุรา ดันยอดขายสุราร่วงลงเยอะมาก แทนที่ด้วยยอดขายเครื่องดื่มปุ๊นและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
เหลือข้อสุดท้ายคือเรื่องศีลธรรม ถ้าไม่ดัดจริตจนเกินไปต้องยอมรับว่าเมืองไทยงมงายอย่างบ้าคลั่ง จนยึดนิยามศีลธรรมอย่างบิดเบี้ยวโดยไม่เคารพสิทธิ์สากล มิเช่นนั้นปัญหา “พระหลอกแดกเงิน” คงจะไม่ลุกลามขนาดนี้ หรือแม้แต่ใช้ ChatGPT ดูดวง สิ่งเหล่านื้ย่อมสะท้อนความงมงายที่ไม่สนใจหลักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นบ้านเมืองเราจะปั่นกันให้ล้าหลังแบบนี้หรือ ขอฝากถึงพรรคหัวก้าวหน้าที่จ้องเปิดอภิปรายโจมตีปุ๊นว่า ถ้าเอาเรื่องศีลธรรมนำสิทธิ์สากล ก็คงไม่ต่างจากนักการเมืองที่ไม่มีกระดูกสันหลัง