ปลดล็อคปลูก!! ‘ศรีลังกา’ ไฟเขียวเปิดฟาร์มปุ๊น ดูดเงินเข้าประเทศ
1 min read
ประธานาธิบดี ประเทศศรีลังกา ประกาศนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ พร้อมปลดล็อคปุ๊นปลูกได้ นำร่องฟาร์ม 37 แห่ง หวังดูดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจปี 30,000 ล้านบาท ล็อคเป้าตลาดส่งออกต่างประเทศ นักวิเคราะห์เชื่อภูมิอากาศเอื้อ-เส้นทางขนส่งใกล้ยุโรป
สื่อระดับโลกอย่าง Reuters รายงานข่าวว่า นาย Anura Kumara Dissanayake ประธานาธิบดี ของประเทศศรีลังกา ได้ประกาศนโยบายว่ารัฐบาลมีแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ ทั้งการปรับโมเดลพลังงาน การเพิ่มกำลังผลิตภาคอุตสาหกรรม ไปจนถึงการแก้กฎหมายปลดล็อคเศรษฐกิจปุ๊น โดยเบื้องต้นได้อนุมัติโครงการฟาร์มปลูกนำร่องทั้งสิ้น 37 แห่ง ภายใต้ระยะเวลาโครงการ 6 เดือน เพื่อทดลองการปลูกปุ๊นสำหรับการผลิตยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องเพื่อส่งออก โดยมีตลาดเป้าหมายหลักในกลุ่มยุโรปซึ่งเป็นดีมานต์การใช้ปุ๊นสูงติดอันดับโลก
นาย Arunakumara นักวิเคราะห์จาก University of Ruhuna ในศรีลังกา เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมปุ๊นคือความหวังใหม่ของเศรษฐกิจศรีลังกา ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกบริเวณเส้นศูนย์สูตร ซึ่งมีทั้งความชื้นและแสงแดดที่เหมาะสม ประกอบกับชาวศรีลังกาเชี่ยวชาญความรู้ด้านเกษตรกร จึงเชื่อว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะสร้างเม็ดเงินให้ประเทศได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 30,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีหลังจากปลดล็อคเต็มตัว นอกจากนี้สนับสนุนปุ๊นเชิงกาแพทย์นั้น รัฐบาลยังมีแนวคิดเปิดกว้างสะหรับปุ๊นสันทนาการอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ย่อมต้องเจอแรงกดดันจากฝ่ายต่อต้าน
ด้าน Diana Gamage อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ระบุว่า การประกาศนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจซึ่งมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมพืชปุ๊นนั้นเป็นการพลิกโฉมขนานใหญ่ของประเทศเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจ ซึ่งเธอยืนยันว่านโยบายดังกล่าวนั้นเป็นแนวคิดของรัฐบาลชุดก่อนที่มีการศึกษา พิจารณาแล้วส่งมอบกันมา จึงถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่สิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่
รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า สื่อมวลชนประเทศศรีลังกาได้กล่าวถึงนโยบายปลดล็อคปุ๊นแห่งชาติว่าเป็นการพัฒนานโยบายทางเศรษฐกิจคล้ายกับประเทศในเอเชีย ทั้งประเทศไทยที่มีการปลดล็อคไปแล้ว รวมถึงประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งมีนโยบายส่งเสริม CBD เพื่อสุขภาพ ประกอบกับความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ของศรีลังกาที่มีสภาพภูมิอากาศไม่แตกต่างจากไทย แต่มีเส้นทางการขนส่งปุ๊นไปสู่ยุโรปที่ใกล้กว่ามาก เนื่องจากประเทศศรีลังกาตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล ใกล้กับคลองสุเอซ ของประเทศอียิปต์ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าหลักไปสู่ยุโรป ทั้งยังมีภูมิประเทศที่ติดกับอินเดีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชาติที่บริโภคปุ๊นมาอย่างยาวนาน ผูกพันทั้งประวัติศาสตร์และศาสนา สอดคล้องกับปริมาณนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ทอยอยมาเที่ยวไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งย่อมมาจากความชื่นชอบในการท่องเที่ยวเชิงสมุนไพร ซึ่งไทยมีทั้งทรัพยากรสวยงาม อาหารอร่อย ค่าครองชีพถูก และมีสุมนไพรที่ยอดเยี้ยม