เริ่มแล้ว!! บังคับใช้ใบสั่งจ่ายแพทย์ สธ.คาดร้านปิดเรียบ 12,000 แห่ง
1 min read
เริ่มแล้ว!! บังคับใช้ใบสั่งจ่ายแพทย์ สธ.คาดร้านปิดเรียบ 12,000 แห่ง
ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 โดยเป็นใบสั่งจ่าย ภท.33 ซึ่งที่แตกต่างไปจากของเดิมก่อนหน้านี้คือมีการตัด 15 กลุ่มโรคออก แล้วเว้นที่ว่างไว้ให้แพทย์เขียนโรคเอง คล้ายเปิดกว้างให้เข้าถึงกลุ่มโรคได้มากยิ่งขึ้น
โดยมีช่องให้ระบุชื่อผู้จ่ายยาใน 7 สาขาวิชาชีพ พร้อมเลขที่ใบอนุญาต/หนังสือรับรอง และที่อยู่ของผู้สั่งจ่ายยา ได้แก่ เวชกรรม, แพทย์แผนไทย, แพทย์แผนไทยประยุกต์, ทันตกรรม, เภสัชกรรม, ผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาแพทย์แผนจีน และ หมอพื้นบ้าน จากนั้น ให้ระบุข้อมูลผู้ป่วย ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล, อายุ, สัญชาติ, เลขที่ประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง และให้ระบุอาการของโรคที่ควรได้รับการจ่ายยาช่อดอกปุ๊น พร้อมระบุปริมาณขนาดที่ให้ใช้ต่อวัน จำนวนวันที่ให้ใช้ และ รวมปริมาณที่ให้ใช้ทั้งหมด
โดยมีการระบุหมายเหตุ 3 ข้อ คือ 1.ให้ได้ไม่เกิน 30 วัน ต่อ 1 ครั้งการจ่าย 2.การวินิจฉัยที่สอดคล้องหรือเป็นไปตามแนวทางการปฏิบัติและข้อบ่งชี้ในการใช้ปุ๊นทางการแพทย์ของวิชาชีพผู้สั่งจ่ายยาที่ได้รับอนุญาต และ 3.การวินิจฉัยที่ตรงกับเอกสารรับรองทางการแพทย์อื่นใดที่เห็นควรให้ผู้ซื้อสามารถใช้ปุ๊นทางการแพทย์ได้
นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่าในอนาคตร้านค้าปุ๊นจะต้องเป็นคลินิกหรือสถานพยาบาล โดยร้านค้าที่ต้องขึ้นทะเบียนใหม่ หรือต่อทะเบียน ซึ่งปลายปีนี้จะมีร้านค้า 12,000 แห่ง จาก 18,000 แห่ง หมดอายุ และต้องต่อใบอนุญาต ซึ่งต้องปรับเป็นคลินิก หรือสถานพยาบาลมีผู้ประกอบวิชาชีพประจำ เท่ากับภายในปีนี้ร้านค้าจะทยอยปรับรูปแบบ จนไม่เหลือร้านค้าที่ไม่มีผู้ประกอบวิชาชีพอีกต่อไป จะเป็นการใช้ปุ๊นทางการแพทย์อย่างสมบูรณ์
