Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

วังวนพืชเศรษฐกิจใหม่ ถูกใช้เป็นเครื่องมือการเมือง ซุกความล้มเหลวรัฐบาล-ช่วงชิงคะแนนเลือกตั้ง

1 min read

การเปิดปฏิบัติการปูพรมบุกค้นร้านปุ๊นทั่วประเทศในช่วงที่พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวย่อมไม่ใช่เรื่องปกติอย่างที่รัฐมนตรีสาธารณสุขยืนกราน ในอดีตปุ๊นเคยช่วยสร้างคะแนนนิยมให้พรรคการเมือง แต่มันกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือซุกความล้มเหลวของรัฐบาลและจะถูกรีไซเคิลใช้เป็นตัวชูคะแนนความนิยมช่วงหาเสียงอีกครั้ง โดยพรรคนายใหญ่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!! ทั้งรื้อมรดกพรรคภูมิใจไทยและซุกขยะไว้ใต้พรมไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ตระบัดสัตย์-คลิปหลุดฮุนเซน-เศรษฐกิจเจ๊ง-ท่องเที่ยวทรุด และ สทร.ป่วยทิพย์ชั้น 14 โดยอ้างการคุมเข้มปุ๊นสมุนไพรในครั้งนี้ว่าเป็นการแก้ปัญหายาเสพติดซึ่งเคยเป็นภาพลักษณ์การโฆษณาของพรรคสีแดงในอดีต เพื่อนำมาสร้างวาทกรรมหาเสียงในยุคปัจจุบัน ดังนั้นการเร่งปิดเกมปุ๊นยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าการเลือกตั้งใหม่อาจอยู่อีกไม่ไกล ท่ามกลางความสั่นคลอนของรัฐบาล

แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้โดยเฉพาะนายใหญ่มีธงต้องการลดจำนวนสายเขียวทั้งด้านตั้งกฎคุมเข้มให้เข้าถึงยากขึ้น รวมถึงลดปริมาณของสถานบริการปุ๊น ซึ่งประกาศควบคุมฉบับล่าสุดได้เปิดช่องให้รัฐไม่ต่อใบอนุญาตและอาจมีเงื่อนไขไม่จดทะเบียนใบอนุญาตเพิ่มอีกในอนาคต ประกอบกับเจ้ากระทรวงมีความเห็นส่วนตัวเป็นลบกับปุ๊นอีกด้วย

สอดคล้องกับรายงานข่าวซึ่งพบข้อความไลน์หลุดจากสาธารณสุขประจำจังหวัด (สสจ.) ซึ่งได้มีข้อสั่งการให้พนักงานทั่วประเทศรีบเร่งการสร้างผลงานผ่านการบุกตรวจจับสถานบริการปุ๊นในทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวอีกว่า พรรคสีแดงพยายามขัดขวางพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปุ๊นซึ่งถูกเสนอค้างเติ่งอยู่ในรัฐสภามานานแล้ว เพียงเพราะกลัวพรรคสีน้ำเงินได้คะแนนเสียงจากการผลักดันกฎหมายใหญ่ฉบับแรกสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ เแต่เมื่อพรรคบุรีรัมย์แยกตัวไปเป็นฝ่ายค้านแล้วจึงมีโอกาสที่การปราบปุ๊นจะถูกเร่งเกมให้เร็วมากยิ่งขึ้น

เมื่อ พ.ร.บ.ปุ๊นถึงทางตัน จึงเป็นช่องทางให้รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของพรรคเพื่อไทยสามารถใช้อำนาจกระทรวง เซ็นคำสั่งให้ปุ๊นกลับไปเป็นยาเสพติดได้อีกครั้ง โดยเราต้องไม่ลืมว่าปุ๊นคือ Branding ของพรรคสีน้ำเงิน ที่เป็นจุดขายหลักเรื่อง ‘พูดแล้วทำ‘ ซึ่งกระทบต่อฐานคะแนนเสียงจากสายเขียวราว 1-2 ล้านคะแนนเสียง อย่างไรก็ตามที่เสียหายมากที่สุดคือคนไทย ซึ่งอาจตกงานสูงถึง 32,220-48,300 ตำแหน่ง ส่วนประเทศชาติเสียหายเม็ดเงินทางเศรษฐกิจปีละ 280,000 ล้านบาท กระทบผู้ปลูกนับล้านคนทั่วประเทศ ความวิบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไทยต้องเลือกเพื่อสนองความต้องการของนักการเมืองอย่างนั้นหรือ??

ขณะที่ นายประสิทธิชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย เปิดเผยผ่าน hfocus ว่าเรื่องปุ๊น เป็นเรื่องการเมืองมาตลอดและอาจถูกเกมการเมืองนำกลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง ปัจจุบันร้านค้าต่างทยอยปิดตัวลงจำนวนมาก ไม่มีร้านค้ารายใหม่ กลายเป็นเกิดตลาดต่างประเทศเข้ามา เพื่อทำลายตลาดไทย แล้วดันมาเจอรัฐมนตรีสาธารณสุขแก้ปัญหาแบบเฉพาะจุดอีก กลายเป็นก่อปัญหาใหม่ เพราะร้านค้าบนดินอยู่ไม่ได้ ร้านใต้ดินเกิดขึ้นและตรวจจับยากอีก

“ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยไม่ได้อยู่ในสมการของฝั่งรัฐบาล ก็จะทำอะไรไม่ได้ นี่ก็เป็นจังหวะผลักดัน ซึ่งปุ๊นเป็นการเมืองมาตั้งแต่ต้น และการมาพีคตรวจจับปุ๊นตอนนี้อีก ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า นี่คือนัยทางการเมืองแน่นอน” นายประสิทธิชัยกล่าว

ด้านกองบรรณาธิการสำนักข่าวแนวหน้า เคยให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า ท้ายที่สุด ต้นไม้ต้นหนึ่ง นายใหญ่ยังจะปล้นไปจากประชาชน นี่คือนิสัยที่พรรคนายใหญ่ที่เคยทำมาตลอด รัฐบาลกำลังจับประชาชนหลายล้านคนเป็นตัวประกัน ประกอบด้วย ผู้ป่วยหลายแสนคน คลินิกปุ๊น วิสาหกิจชาวบ้าน ตลอดจนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การควบคุมผลประโยชน์ของประเทศครั้งใหม่ ให้กลับไปอยู่ในมือของคนกลุ่มเดียวอย่างนั้นหรือ เราไม่ควรปล่อยให้ประเทศนี้กำหนดความเป็นไปโดยอำนาจความอยากของใครได้อีก การกำหนดนโยบายสาธารณะจะต้องยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้องโดยไม่นำไปสู่การเอื้อนายทุนหรือการสร้างความนิยมทางการเมืองใดใด

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *