“นอมินีกัญชา” ภัยร้ายทำลายโอกาส แย่งงานคนไทย มีคนขายชาติสนับสนุน?
1 min read
จากโศกนาฏกรรม ‘ตึกถล่ม’ สู่ปมการคุมเข้มกัญชาไทย สะท้อนปัญหานอมินีทั้งรายเล็กรายใหญ่ ขายผลิตภัณฑ์กัญชาผิดกฎหมาย ซ้ำร้ายมี ‘พวกขายชาติ’ ไปร่วมขบวนการทำลายพืชเศรษฐกิจใหม่คนไทย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท จับตาแบรนด์นอมินี ‘กัมมี่-เมล็ด-ร้านค้าขนาดใหญ่’ ลากไส้ภัยคุกคามนอมินี ภาครัฐลุยส่งทีมกวาดล้างนำร่องจังหวัดภูเก็ต
พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยว่าภูเก็ตมธุรกิจนอมินีต่างชาติในธุรกิจกัญชาจำนวนมาก จึงได้มีการกวาดล้างบุกจับกุมอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างล่าสุดจับกุมโรงงานแปรรูปกัญชาของบริษัทต่างชาติที่คนไทยเป็นนอมินี โดยสามารถตรวจยึด ของกลางสารสกัดแปรรูปจากกัญชาประมาณ 200 กว่าชิ้น
รวมถึงบุกจับโรงผลิตขนมกัมมี่โดยใช้สารสกัดกัญชา และโรงเพาะปลูกกัญชาขนาดใหญ่ รวมถึงมีการตรวจค้นสถานบริการนอมินีไปแล้วจำนวนมาก โดยสอดคล้องกับ นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าได้รับข้อร้องเรียนจำนวนมากเรื่องธุรกิจกัญชานอมินีในแหล่งท่องเที่ยวที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้งการทำกัมมี่เยลลี่กัญชาที่มีสารสกัด THC เกินมาตรฐานที่กำหนด
ปัจจุบันธุรกิจนอมินีต่างชาติด้านกัญชาในไทย เหิมเกริมกันใหญ่ ทั้งนำเข้าเมล็ดผิดกฎหมายมาขายในไทย ทั้งการขายกัมมี่ผสมสารสกัดผิดกฎหมายโดยไม่มี อย. บริษัทขายส่งอุปกรณ์กัญชา ไปจนถึงเปิดโรงสกัดขนาดใหญ่ ล้วนเป็นนายทุนต่างชาติอเมริกา-ยุโรป-รัสเซีย ซึ่งภาครัฐขึ้นบัญชีหนังหมาเตรียมกวาดล้าง จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์พบว่ามีบริษัทนอมินีในไทยกว่า 46,918 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางธุรกิจมากกว่า 15,288 ล้านบาท
สาเหตุที่ธุรกิจปุ๊นไทยไปอยู่ในมือต่างด้าว เพราะเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินมหาศาล ไม่ต่างจากทุเรียน ที่เราได้เห็นล้งต่างด้าว-ร้านต่างชาติ-เจ้าของฟาร์มไม่ใช่คนไทย แต่นี่หนักกว่าทุเรียน เพราะมีนอมินีที่เอาสายพันธุ์กัญชานำเข้ามาขาย สนับสนุนการใช้สารสกัด แล้วยังเอากัมมี่ผสมสารสกัดมาเดินขายกันโจ๋งครึ่มเต็มบ้านเต็มเมือง หลายเจ้ายังกล้าออกบู๊ธใหญ่โต แต่ผลิตภัณฑ์มี อย. หรือยังเอ่ย? สอดคล้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าธุรกิจซึ่งพบว่าธุรกิจนอมินีกัญชาแอบแฝงมากที่สุดอยู่ในภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหลัก พัทยา ภูเก็ต กรุงเทพ ไม่เชื่อก็ลองไปอีเวนท์ปุ๊นแถวนั้นดูสิ่
การลงทุนที่ควรจ้างแรงงานไทย-ใช้ของในไทยเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน กลับกลายเป็นการทำธุรกิจนอมินีเถื่อน จ้างแรงงานต่างด้าว สนับสนุนสินค้าใต้ดินที่ไม่เข้าระบบภาษีและเม็ดเงินถูกดูดออกไปนอกประเทศ มีการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อหลบเลี่ยงกฎเกณฑ์นำไปสู่ความได้เปรียบทางการแข่งขันด้านต้นทุน จึงมีปรากฎการณ์ทุ่มตลาดทุบสินค้าจนผู้ประกอบการชาวไทยอยู่ไม่ได้ ที่สำคัญกลุ่มฟอกเงินไม่แคร์ผลตัวเลขขาดทุนด้วยซ้ำ ยิ่งกดดันให้คนไทยที่ทำถูกกฎหมายอยู่ไม่ได้ ซ้ำร้ายยังมีคนไทยที่ศีลธรรมต่ำทรามยอมขายตัวเพื่อรับใช้ธุรกิจต่างชาติที่ทำผิดกฎหมายเอาเปรียบคนไทย
ดังนั้น การแก้ปัญหา”นอมินี”ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทยถือเป็นภารกิจที่รัฐบาเร่งแก้ปัญหาและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเด็ดขาดเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการทำธุรกิจลดความเสียหายที่จะเกิดกับภาคธุรกิจและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสร้างความโปร่งใสให้กับระบบธุรกิจของประเทศ