ส่องโมเดล ‘บัตรกัญชา’ คลินิกเชิงการแพทย์ในอเมริกา
1 min read
วิธีขอบัตรผู้ป่วยเติมกัญชาเชิงการแพทย์ใน USA ในรูปแบบคลินิกเชิงการแพทย์เพื่อสุขภาพ ขั้นตอนแสนง่าย-ลงทะเบียนออนไลน์ไม่ยุ่งยาก-นักท่องเที่ยวทำได้ สามารถนำมาเป็นแนวทางพัฒนาเพื่อต่อยอดใช้กับบ้านเราได้
นาย Matthew Johnson เจ้าของคลินิกปุ๊น Fine Fettle ในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การออกใบผู้ป่วยกัญชาในอเมริกานั้น ผู้บริโภคสามารถเดินทางมาออกบัตรได้ที่หน้าร้าน รวมถึงการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ได้เพื่อความรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งรัฐบาลมีการออกใบอนุญาตให้กับคลินิกเพื่อสามารถออกบัตรผู้ป่วยได้ ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้ 1.ร้านค้าต้องมีใบอนุญาตออกบัตรผู้ป่วย 2.ผู้ป่วยแจ้งโรคในกลุ่มที่รัฐอนุญาตให้ใช้กัญชารักษา เช่นโรคปวดเรื้อรัง โรคนอนไม่หลับ โรคอัลไซเมอร์และโรค PTSD เป็นต้น 3.ใบสั่งจ่ายยาโดยผู้บริการ 4.บัตรประชาชนยืนยันแหล่งที่อยู่อาศัยในอเมริกา เมื่อได้บัตรผู้ป่วยแล้วจะสามารถนำไปใช้บริการคลินิกกัญชาต่างๆได้อย่างเสรี ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีผู้สั่งจ่ายยา ใบสั่งจ่ายยา และใบอนุญาตประกอบการเชิงการแพทย์ ส่วนด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติในบางรัฐสามารถออกใบผู้ป่วยได้ที่คลินิก หรือ จะมีศูนย์ของรัฐที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆในเมือง เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องมี 1.พาสปอร์ตยืนยันอายุ 2.ประวัติการรักษาโดยกัญชาในกลุ่มโรคที่อนุญาต เป็นต้น
นาย Matthew กล่าวต่อว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเชิงการแพทย์ที่รัฐอนุญาตนั้นจะไม่มีการขายช่อดอกกัญชา มีแต่เพียงยากัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ เช่น สารสกัดที่มีความเข้มข้นต่ำปริมาณ 100-200 mg กลิ่นยอดนิยมจะเป็นพวกแนวผลไม้ เช่น พีซและฟรุตตี้ รวมถึงยาที่เป็นแคปซูลขนาด 150-1200mg และสารสกัดทิงเจอร์ความเข้มข้น 300-1200mg ตลอดจนพวกเครื่องสำอางอย่างครีมบำรุงผิวกัญชาที่ขนาด 500mg และมี CBG เป็นส่วนประกอบ
“กลุ่มผู้ใช้กัญชาเชิงการแพทย์เป็นตลาดที่มีประสิทธิภาพและยังไม่ถูกสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มนี้มีกำลังซื้อพร้อมจ่ายและค่อนข้างมีอายุเยอะ จึงมองหาปุ๊นเพื่อเน้นไปใช้ในเชิงสุขภาพ”
รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า การออกใบผู้ป่วยกัญชาในอเมริกาสำหรับพลเมืองสัญชาติอเมริกันต้องใช้เอกสารดังนี้ 1.หลักฐานการพำนักในรัฐ (เช่น ใบอนุญาตขับขี่) 2.บัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายที่ออกโดยรัฐบาล 3.ใบรับรองโดยคลินิกที่มีใบอนุญาต (หน้าร้าน) หรือ ใบรับรองจากศูนย์ให้บริการของรัฐ 4.ค่าธรรมเนียมในการสมัคร ตัวอย่างเช่น ในแคลิฟอร์เนีย ผู้ป่วยจะต้องแสดงเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาต หลักฐานการอยู่อาศัย และบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายที่ออกโดยรัฐบาลเมื่อขอเปิดบัตรปุ๊นทางการแพทย์ ขณะที่โมเดลการมีหมออยู่หน้าร้านนั้นในบางรัฐใช้ระบบ Tele-medicine คือการให้คนไข้คุยกับหมอผ่านหน้าจอเพื่อจ่ายยาและออกใบรับรองการจ่ายยากัญชาแบบออนไลน์ นั่นแปลว่าคลินิกกัญชา 10 แห่งอาจใช้หมอเพียงคนเดียวได้ อย่างไรก็ตามกฎหมายอนุญาตใช้กัญชาของอเมริกามีความแตกต่างกันในแต่ละรัฐ ดังนั้นเงื่อนไขการออกบัตรผู้ป่วยจึงแตกต่างกัน เช่นเดียวกับบัตรผู้ป่วยนั้นจะใช้ได้เฉพาะในรัฐที่ออกให้เท่านั้น ห้ามพกพาบัตรผู้ป่วยกัญชาหรือพกพาดอกกัญชาข้ามรัฐเด็ดขาด