คาบ้าน!? ‘พรรคส้ม’ เจอทัวร์สายเขียวถล่มยับ ฉะ! ปั่นเรื่องเท็จ-หนุนสุราเสรี หลังชูปุ๊นกลับเป็นยาเสพติด
1 min read
ทัวร์ลงฉ่ำ!! พรรคประชาชน เล่นใหญ่โจมตีปุ๊นสายเขียว หวังกู้คะแนนเสียงตกต่ำ-โหวตเตอร์หมดศรัทธาจากปม “ฝ่ายค้ำ” แต่โดนทัวร์สายเขียวรุมถล่มเละคาบ้าน ฉะพวกดัดจริต “หนุนสุราเสรี แต่จะแบนปุ๊น” พกตรรกะสุดพังอ้างปุ๊นสร้างความเสียหาย แต่สุราทำคนไทยบนถนนตายปีละ 57,000 คน กลับไม่ถูกพูดถึง ด้าน อ.เดชา แทงซ้ำ เหล้าเบียร์ประโยชน์น้อยกว่าปุ๊นสมุนไพร แต่กลับส่งเสริมเปิดขายเสรี สร้างปัญหาให้สังคมและเยาวชนมากกว่า แต่พวกบิดเบือนประเด็นหวังตีกินกู้คะแนนเสียงในช่วงพรรคขาลง สุดฉาว สส.พรรคก้าวไกล เคยเมาแล้วขับ ตอกย้ำปัญหาคนไทยติดสุรางอมแงม-แต่ดัดจริตกับกลิ่นปุ๊นหรือไม่??
ต้นเรื่องเกิดจาก ‘พรรคประชาชน’ ป่าวประกาศผ่าน Facebook โจมตีปุ๊นเป็นปัญหาสังคม เสนอให้ดึงกลับเป็นยาเสพติด อ้างคนไทยปลูกได้เสรีไร้การควบคุมและกลิ่นปุ๊นที่ตำรวจจับไม่ได้ มีการปล่อยขายเสรี ขายผ่านออนไลน์และการบริโภคปุ๊นภายในร้านได้ ส่งผลให้เยาวชนเข้าถึงมากขึ้น ไปจนถึงเรื่องการลักลอบส่งออก พร้อมแท็กชื่อ สส.ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ จนเกิดประเด็นสายเขียวเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากพร้อมมีสายเขียวท้าดีเบตกับสส.สีส้ม ซึ่ง Channel Weez Thailand เคยติดต่อ สส.สีส้ม (บูม ปารเมศ) กทม.เพื่อขอนัดสัมภาษณ์ถึงประเด็นการกล่าวหาเรื่องกลิ่นปุ๊นฉุดการท่องเที่ยว แต่ไร้การตอบกลับอย่างเงียบกริบ จึงต้องจับตาดูว่าการท้าดีเบทกับสายเขียวจะเริ่มได้กี่โมง เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งหมอการเมือง สมาคมแพทย์และฝ่ายต่อต้านต่างๆ ปฏิเสธการดีเบทกับสายเขียวบนเวทีสาธารณะมาตลอด แม้แต่การจัดงานของสมาคมเยาวชนต่อต้านปุ๊นแห่งหนึ่งยังกีดกันสายเขียวไม่ให้ขึ้นพูดบนเวที ทั้งหมดนี้จึงเป็นเพียงการปั่นวาทกรรมโจมตีปุ๊นด้านเดียวหรือไม่ จึงย่อมถูกตั้งคำถามว่าใช้ปุ๊นเป็นประเด็นหาเสียงตีกินทางการเมืองหรือไม่ หลังจากที่พรรคส้มกระแสตกจากการเป็นฝ่ายค้ำให้นายกสายเขียวขึ้นสู่อำนาจ โหวตเตอร์บางส่วนหมดศรัทธาสะท้อนผ่านผลนิด้าโพลล์ล่าสุด คะแนนความนิยมสีส้มลดฮวบ
รถทัวร์สายเขียว! รุมถล่มพรรคสีส้มเละ จับประเด็นส่วนใหญ่กล่าวถึงการบิดเบือนข้อมูลวิทยาศาสตร์โดยไม่เปรียบเทียบปุ๊นกับสุรา-บุหรี่ ซึ่งพบว่าทั้งอัตราการเสพติด ทั้งปัญหาสังคม ปัญหากลิ่นควันและปัญหาเด็กเข้าถึงสูงกว่าทุกด้านอย่างเป็นที่ประจักษ์ โดยส่วนใหญ่ผิดหวังกับพรรคคนรุ่นใหม่ที่อ้างทำการเมืองสร้างสรรค์แต่กลับใช้ข้อมูลบิดเบือนมากล่าวอ้างโจมตีอย่างไร้ตรรกะ เช่น “เอาข้อมูลเท็จมาพูด ข่าวที่ออกก็มั่ว เวลาเข้าสภา เอาสมองมาด้วย” ขณะที่ประเทศเจริญแล้วเขาพัฒนาส่งเสริมดูดเงินมาสร้างเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยกลับถอยหลังลงกะลาด้วยการปั่นหัวให้คนกลัวกันเองเพื่อหวังผลทางการเมือง เหมือนใช้ชุดข้อมูลอยู่กันคนละโลก สะท้อนสติปัญญาคนไทยยังงมงายยึดติดกับศีลธรรมจอมปลอมที่ขัดแย้งกับข้อมูลวิทยาศาสตร์หรือไม่ ฤาไทยจะเขียนกฎหมายที่ไม่ยืนอยู่บนตรรกะหลักวิทยาศาสตร์แต่เน้นหลักความงมงายหรือไม่
ด้านอาจารย์ เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เปิดเผยว่า การอภิปรายเรื่องปุ๊นของ สส.ฝ่ายค้านนั้นขัดแย้งจากความจริง เมื่อนักการเมืองส่งเสริมให้บริโภคสุราเสรีขายได้ทุกเวลา แต่กลับผลักดันให้ปุ๊นเป็นยาเสพติด จึงอยากถามว่าเหล้าเบียร์มีประโยชน์อะไร ส่วนประโยชน์ปุ๊นนั้นหากไม่มีความรู้เลยก็ควรหาความรู้จากหนังสือต่างๆมาอ่านบ้าง สอดคล้องกับคลิปโดนัลทรัมป์ที่ระบุว่า พวกที่ต่อต้านปุ๊นควรหาความรู้ศึกษาเพราะเป็นวิทยาการใหม่เรื่องระบบแอนโดแคนาบินอยด์ เพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและสร้างเสริมวงการสุขภาพ นี่คือความคิดของประเทศที่เจริญแล้ว
การอภิปรายนโยบายของรัฐสภา พบว่าวาทกรรมโจมตีปุ๊นหาเสียงส่วนใหญ๋เป็นการหยิบยกข้อมูลบิดเบือนที่ไม่มีตัวเลขมาอ้างอิง เน้นพูดหาแสงสร้างความนิยมและมักหยิบยกตัวเลขเดิมๆที่ผ่านต่อต้านเอามาโจมตีปุ๊น โดยไม่มีข้อมูลงานวิทยาศาสตร์เหมือนประเทศสากล ที่ผ่านมาฝ่ายต่อต้านไม่เคยพูดถึงประโยชน์ทั้งที่มีงานวิจัยมากกว่า 30,000 ฉบับทั่วโลกศึกษามาแล้วหลายปี ยิ่งตอกย้ำพฤติกรรมบิดเบือนที่ถูกหยิบยกมาอ้างข้อมูลด้านเดียว เพียงเพราะเกรงกลัวว่า “ความจริงจะไม่ถูกจริตคนไทย” ในประเทศที่เน้นอารมณ์มากกว่าตรรกะเหตุผล คนไทยจึงไร้แรงงานศักยภาพและโดนเวียดนามแซง
ข้อมูลที่ปฏิเสธไม่ได้คือ สุราเสพติดมากกว่าปุ๊น สุราก้าวหน้าสร้างความเสียหายไทยต่อสังคมปีละ 70,000 ล้านบาท คนไทยตุยจากอุบัติเหตุคนเมาปีละ 57,000 คน แต่พรรคส้มกลับผลักดันปลดล็อคสุรา ทั้งขาย 24 ชม. ขายวันพระ โฆษณาได้ ขายออนไลน์ได้ บริโภคในร้านได้-ชาวบ้านผลิตไม่ต้องมี GACP เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับใบไม้ร่าเริงทุกอย่าง ทั้งที่ผลวิทยาศาสตร์บอกชัดว่าเสพติดมากกว่าสร้างปัญหามากกว่า เหตุใดจึงไม่ใช้กฎเดียวกัน หรือพรรคประชาชนสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นชาติที่เสพติดเหล้า ทั้งที่มีหนี้ครัวเรือนสูง 90% และสถิติคนไทยดื่มเบียร์มากสุดในเอเชีย ทุกวันนี้คนไทยสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเรื่องเหล้าสัดส่วน 20-30% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนคนใช้ปุ๊นของไทยคิดเป็นเพียงไม่ถึง 2% ของประชากรสายเขียวโลก