สธ.ชี้ชัด! ’ตำรวจท้องถิ่น‘ ตรวจร้านปุ๊นไม่ได้ เข้าข่ายโดนโทษหนัก ม.157 ‘ภูเก็ต‘ ผุดยันกันสืบ ขู่จับพวกรีดสินบน-ล่อซื้อ.

แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่บุกก่อกวนสถานบริการว่า ผู้ประกอบการย่อมต้องเจอเจ้าหน้าที่มาคอยหาเรื่องอยู่ประจำ ต่อไปคงต้องมีการปรับปรุงการบังคับใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อร้านค้า โดยที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้มอบอำนาจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีสิทธิ์เท่านั้น แต่ทางตำรวจท้องถิ่นอย่าง สภ. และ สน. ได้เสนอขออำนาจตรวจค้นร้านปุ๊นด้วย จึงได้มีการส่งมอบให้รัฐบาลพิจารณาเห็นชอบแต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งชุดออกไปเสียก่อน เรื่องจึงค้างเติ่งไม่ได้รับการอนุมัติ (ดังนั้นตำรวจท้องถิ่นจึงไม่มีสิทธิ์ตรวจร้านปุ็น)

แหล่งข่าวกล่าวต่อถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านจับสายเขียวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกมากที่ไม่เข้าใจกฎหมาย เนื่องจากมีการประกาศออกมาเรื่อยๆ ดังนั้นสายเขียวต้องหมั่นศึกษาติดตามกฎหมายเพื่อปกป้องตนเองจากการถูกเรียกรับสินบน ซึ่งปัจจุบันตำรวจยังไม่มีอำนาจตั้งด่านจับกุมหรือจับปรับผู้ครอบครองปุ๊นหรือผู้บริโภคปุ๊น เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ระบุให้เป็นยาเสพติด

แหล่งข่าวกล่าวถึงกรณีการที่มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดไปสั่งปิดร้านค้าว่า กรมการแพทย์แผนไทยฯ จะให้ความสำคัญเรื่องการสื่อสารมากยิ่งขึ้น เพื่อชี้แจงกรอบกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตรงกัน เนื่องจากประกาศกระทรวงเพื่อควบคุมปุ๊นมีออกมาหลายฉบับ ที่ผ่านมาก็มีการประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวระบุว่า หน่วยงานที่มีสิทธิ์ตรวจค้นร้านได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่กรมภายใต้ สธ. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ตำรวจ ป.ป.ส.) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ดังนั้น หากพบเจ้าหน้าที่คุกคามสถานบริการที่ทำถูกกฎหมายโดยไม่มีหมายค้น สามารถฟ้องจับคดีมาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหาย มีโทษจำคุก 10 ปี ผิดวินัยร้ายแรง-ริบยศ-ตัดบำนาญตลอดชีวิต แค่ตรวจโดยไม่มีหมายค้นก็เสี่ยงเจอคดีแล้ว หากเป็นเวลากลางคืนกลายเป็นบุกรุกยามวิกาลเข้าไปอีก บางพื้นที่มีทั้งการมาตรวจแบบนอกเครื่องแบบตลอด ไปจนถึงการแอบอ้างว่าเป็นตำรวจแล้วมาเรียกเก็บเงิน ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าจะต้องใส่เครื่องแบบและมีบัตรแสดงตัวชัดเจ

จากการที่ Channel Weez Thailand ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวจากเครือข่ายกรมการแพทย์ฯ พบว่าหลังจากกระทรวงประกาศกฎควบคุมปุ๊นฉบับใหม่ มีการเรียกรับสินบนของตำรวจท้องถิ่นในหลายพื้นที่จังหวัด โดยผู้ประกอบการที่ทำถูกต้องทุกอย่าง สามารถถ่ายรูปร้าน รายละเอียดใบอนุญาต แนบกับภาพ คลิปเสียง คลิปกล้องวงจรปิดหรือคลิปวิดีโอเพื่อนำไปฟ้องดำเนินคดี ทั้งหน่วยงานตำรวจ หน่วยงานท้องถิ่น องค์กรอิสระ ไปจนถึงฟ้องศาล ขณะที่ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธืและหลายจังหวัดภาคอีสานมีการแจ้งร้องเรียนเข้าไปยัง สสจ.อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นใครทำขอให้เลิกก่อนจะโดนโทษหนัก หลังจากนี้อาจมีการตั้งเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อรวบรวมปัญหารายงานต่อฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร

หนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากตำรวจขูดรีดมากที่สุดคือจังหวัดภูเก็ต ล่าสุดเครือข่ายผู้ประกอบการในพื้นที่นำโดยทีมข่าวคนกัญเอง ได้จัดทำชุดเอกสารป้องกันตำรวจขูดรีดเพื่อแปะหน้าสถานบริการทั่วจังหวัด โดยให้นิยามว่ายันต์กันล่อซื้อ ซึ่งมีรายละเอียดชี้แจงการค้อมครองสิทธิ์ของผู้ประกอบการและการชี้แจงโทษการคุกคามโดยหรือการล่อซื้อซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเสี่ยงเจอคดี ม.157