สายเขียวเฮ!? ศาลสั่ง ‘อุ๊งอิ๊ง’ พ้นตำแหน่งนายก-รัฐมนตรีหลุดทั้งคณะ จุดเปลี่ยนเกมปุ๊นไทย ปิดช่องดึงกลับเป็นยาเสพติด!
1 min read
คลายวิกฤติปุ๊นไทยหลังเกมการเมืองล้มกระดาน!? ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งลงดาบ นส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากปมฉาว “คลิปเสียงอังเคิล” พร้อมให้คณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งทั้งหมด รวมถึงตัวจี๊ด ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเหตผลว่า “พฤติกรรมไม่สุจริต บิดเบือนผลประโยชน์ของชาติ ปฏิบัติราชการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์กัมพูชามากกว่า”
สายเขียวมีลุ้น!!! “ล้างไพ่การเมือง” ตั้งรัฐมนตรี สธ.คนใหม่ปลดล็อคสั่งระงับประกาศควบคุมปุ๊นที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน พร้อมลุ้นนายกสายเขียวรีเทิร์น!? ลือสะพัดโรงแรมพูลแมนตั้งวงมาม่า หวังดัน ‘เสี่ยหนู’ เสียบเก้าอี้นายกฯ ผนึกกำลังพรรคสีส้ม จับมือเซ็น MOU มอบโควตารัฐมนตรีคนนอก 3 ตำแหน่ง เผยว่าที่นายกฯใหม่สุดฟิต ตะลุยเดินเกมคอนเนคชั่นนายทุน-ขุนศึก-ศักดินา
ฉากทัศน์แรก….ลุ้นเกมการเมืองยุบสภา ซึ่งจะส่งผลให้การผลักดันประกาศควบคุมปุ๊นฉบับเพิ่มเติมหลังจากนี้จะต้องหยุดชะงักหรือไม่ โดยเฉพาะเงื่อนไข “บังคับเปลี่ยนร้านเป็นคลินิก” เพราะเมื่อหากต้องยุบสภาและเกิดรัฐบาลรักษาการณ์ อาจเกิดสุญญากาศในการผลักดันกฎหมายควบคุม เมื่อรัฐบาลมีแนวโน้มสูงที่จะต้องยุบสภา ทั้งยังปิดประตูการนำกลับไปเป็นยาเสพติด เพราะรัฐมนตรีรักษาการณ์อาจติดข้อจำกัดทางอำนาจตามกฎหมายของรัฐบาลรักษาการ ซึ่งมีโอกาสสูงที่การเลือกตั้งในครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะเสียคะแนนเสียงไปอีกมาก โดยเฉพาะหากผู้นำจิตวิญญาณต้องเจอโทษหนักตามกฎหมาย หรือแม้แต่การลี้ภัยหนีคดี ย่อมกระทบต่อกระดานทางการเมืองและคะแนนความนิยมแน่นอน
ฉากทัศน์ที่สอง…หากรัฐบาลเปลี่ยนขั้วโหวตเสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ย่อมมีการล้างไพ่คณะรัฐมนตรีเอาพรรคสีแดงออกไปทั้งหมด ย่อมเป็นโมเมนตั้มเชิงบวกของสายเขียวที่จะไปกดดันให้เสี่ยหนูผู้เป็นคนให้กำเนิดนโยบายปุ๊นไทย ได้ทบทวนประกาศควบคุมที่ไม่เป็นธรรมอีกครั้ง ย่อมหมายถึงมีโอกาสที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณะสุขคนใหม่จะประกาศแก้ไขโดยอาศัยอำนาจรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ฉากทัศน์ที่สาม…พรรคเพื่อไทยรักษาเก้าอี้นายกและยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่จะเป็นเพียงการประคองรัฐบาลเพื่อหาจังหวะยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ โดยมีความท้าทายคือการหมดศรัทธาของประชาชน ไปจนถึงข้อฟ้องร้องจากสายเขียวที่หวังเอาผิด สมศักดิ์ เทพสุทิน โดยรวมแล้วคะแนนนิยมตกหนัก ฟุบยาว ฟื้นยาก และทำให้ต้องแจกกล้วยจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อใจพรรคร่วมรัฐบาลที่ค่าตัวจะมีราคาแพงขึ้นทันที ทั้งยังเสี่ยงต่อการมีม็อบชุมนุมขับไล่บุกทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งข้อกังขาเรื่องความสัมพันธ์ ทักษิณ-ฮุนเซน และอาจโดนกัมพูชาแบล็คเมลล์ประเทศไทยได้อีกอาจทำให้ปัญหาความขัดแย้งไม่สามารถจบลงได้
.
รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า ที่ผ่านมา นอกจากข้อกล่าวหาเรื่อง “ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อประเทศชาติและประชาชน” แล้ว รัฐบาลชุดนี้ยังถูกสายเขียววิพากษ์วิจารณ์เรื่องการผูกขาดปุ๊นเอื้อนายทุน มูลค่านับหมื่นล้านบาทต่อปี โดยการอ้างควบคุมโดยการแพทย์เปิดช่องให้เกิดการล็อกสเป็กเอื้อทุนใหญ่ กีดกันรายย่อยไม่ให้เข้าถึงการประกอบกิจการ ไปจนถึงตัดอนาคตนักปลูกรายย่อยด้วยกติกามาตรฐาน GACP ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนหลายแสนบาท แทบจะไม่แตกต่างจากการผูกขาดเหล้าเบียร์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน จนเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการรวมตัวกว่า 1,000 คนเพื่อยื่นฟ้องหมู่ขอให้ศาลระงับประกาศควบคุมที่ไม่เป็นธรรม ไปจนถึงการไล่ฟ้องแพ่งเรียกค่าชดเชย และฟ้องคดีข้อหาหนัก ม.157 ตั้งแต่รัฐมนตรีไปถึงนายกรัฐมนตรีหากเกี่ยวข้อง ซึ่งมีโทษหนักถึงขั้นติดคุกหัวโต
ส่วนต้นเหตุความป่วนของอุตสาหกรรมสายเขียวไทยทั้งหมดทั้งมวลนี้ คุณอาจหาข้อมูลไม่ได้ในสื่อไทย แต่สื่อยักษ์ใหญ่ต่างชาติอย่าง SBS News Australia ได้วิเคราะห์เอาไว้ว่า เบื้องหลังการออกประกาศควบคุมปุ๊นฉบับใหม่โดยบังคับให้มีใบรับรองแพทย์นั้น เกิดจากคลิปเสียงหลุดการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ ฮุนเซน ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กองทัพไทยจนถูกสังคมตีความว่าขายชาติ จึงเป็นเหตุให้พรรคร่วมอย่างภูมิใจไทยประกาศถอนตัว นำไปสู่การเอาคืนทางการเมืองโดยโจมตีนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยคือเรื่องปุ๊น ซึ่งการประกาศควบคุมเข้มข้นปุ๊นนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ 7 วันหลังจากเกิดปัญหาของรัฐบาล