สื่อโลกแฉ!! ‘ปุ๊นไทยพัง’ เพราะรัฐบาล สูญเม็ดเงิน 6 หมื่นล้าน-เสียตลาดท่องเที่ยว กิจการยอดขายวูบ 10 เท่า ซ้ำโดนรัฐฉ้อฉลข่มขู่ประชาชน

SBS สำนักข่าวใหญ่จากประเทศออสเตรเลีย ตีแผ่ความจริงประเทศไทย รัฐบาลมุ่งทำลายพืชเศรษฐกิจใหม่มูลค่า 63,000 ล้านบาท เพียงเพราะ ‘คลิปฮุนเซนหลุด และปมปัญหาการเมือง ซ้ำร้ายมีรัฐมนตรีไล่นักท่องเที่ยวสายเขียว หวั่นเสียจุดแข็งขับเคลื่อน GDP ด้านผู้ประกอบการโอดกฎใหม่ดึงยอดขายวูบ 10 เท่า ซ้ำร้ายยังมีเจ้าหน้าที่รัฐฉ้อฉลเรียกรับสินบน-ข่มขู่ให้ปิดร้าน

สำนักข่าว SBS เปิดเผยว่า เบื้องหลังการออกประกาศควบคุมปุ๊นฉบับใหม่โดยบังคับให้มีใบรับรองแพทย์นั้น เกิดจากคลิปเสียงหลุดการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ ฮุนเซน ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กองทัพไทยจนถูกสังคมตีความว่าขายชาติ จึงเป็นเหตุให้พรรคร่วมอย่างภูมิใจไทยประกาศถอนตัว นำไปสู่การเอาคืนทางการเมืองโดยโจมตีนโยบายหลักของพรรคภูมิใจไทยคือเรื่องปุ๊น ซึ่งการประกาศควบคุมเข้มข้นปุ๊นนั้นเกิดขึ้นเพียงแค่ 7 วันหลังจากเกิดปัญหาของรัฐบาล

อุตสาหกรรมปุ๊นไทยมีมูลค่าพุ่งสูงถึง 63,000 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน แต่ผู้มีอำนาจกลับต่อต้าน ซ้ำร้ายยังเข้าข่ายพูดจาไล่นักท่องเที่ยว เมื่อดูจากบทสัมภาษณ์ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งได้ระบุว่า “เราต้องการสื่อสารให้นักท่องเที่ยวว่า เรายินดีต้อนรับสู่ประเทศที่ร่ำรวยด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่ไม่ควรมองว่าไทยเป็นจุดหมายของการใช้ปุ๊นเพื่อสันทนาการ เพราะมันสร้างความรำคาญจากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์”

เศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยกลับมาเฉิดฉายหลังโควิด ส่วนหนึ่งเพราะตลาดปุ๊นคึกคัก เมื่อรัฐบาลตัดโอกาสทางการท่องเที่ยวจึงส่งผลต่อ GDP ซึ่งพึ่งพาการท่องเที่ยวมากกว่า 30% อีกทั้งในปี 2025 ประเทศไทยมีแนวโน้มนักท่องเที่ยวน้อยสุดในรอบ 3 ปี ยิ่งซ้ำเติมโอกาสในการลืมตาอ้าปากของสังคม เมื่อเรื่องปากท้องถูกผูกโยงไปติดกับประเด็นทางศีลธรรมด้วยตรรกะสุดวิปริต เช่น “สังคมไทยที่มีพื้นฐานความเชื่อแบบพุทธ คนยังคงมองว่าปุ๊นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม”

ด้านนายสุรเดช วัฒนาสุนทรกุล ผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ กล่าวว่า ตอนนี้ลูกค้าแทบหายไปหมดแล้ว เพราะกลัวกฎหมายใหม่ แม้ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดว่ารัฐบาลเริ่มบังคับใช้กฎใหม่จริงจัง แต่เพียงแค่ข่าวลือก็ทำให้ยอดขายดิ่งลง จากเดิมเคยขายได้เดือนละมากกว่า 200,000 บาท เหลือเพียงเดือนละ 15,000 บาท ท่ามกลางข้อจำกัดใหม่ที่ยังไม่ได้บังคับใช้อย่างจริงจัง และกฎระเบียบเพิ่มเติมที่กำลังจะตามมา อุตสาหกรรมกัญชาในไทยกำลังเข้าสู่ “พื้นที่สีเทา”

นางสาวคิตตี้ ช่อผกา แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย เปิดเผยกับ SBS ว่า หน่วยงานรัฐมีการออกคำสั่งที่สับสน จนเกิดเป็นการเลือกปฏิบัติที่และการข่มขู่ประชาชน ตัวอย่างเช่น ร้านในจังหวัดที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้มงวด กำลังถูกสั่งปิด หรือไม่ก็ถูกบอกว่า แนะนำให้ปิดไปก่อนจนกว่าจะมีกฎชัดเจน แต่ถ้าไม่ปิด เราอาจเข้าตรวจแล้วระงับใบอนุญาตได้ ดังนั้นการควบคุมแบบนี้ไม่ได้สะท้อนว่าการใช้ปุ๊นลดลงจริง ๆ แต่เป็นเพราะนักท่องเที่ยวหันไปซื้อขายกันเองนอกระบบ แทนที่จะซื้อจากร้านที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากควบคุมยากแล้วรูปแบบนี้ยังทำลาญโอกาสของผู้ประกอบการรายย่อยและชาวบ้าน เนื่องจากธุรกิจขนาดเล็กกำลังจะถูกกวาดออกจากระบบ ฟาร์มเล็ก ๆ ที่สามีเป็นคนปลูก ภรรยาเป็นคนตัดแต่ง แม่ยายเป็นคนขายหน้าร้าน แบบนี้จะไม่เหลืออยู่อีกแล้ว