เพื่อใคร!? ‘คุมเข้มปุ๊น‘ ไม่แก้ปัญหาลักลอบส่งออก 1 เดือนผ่านไป ปุ๊นไทยทะลักทั่วโลก

จากกรณีการออกประกาศคุมเข้มปุ๊นของรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ภายหลังทะเลาะกับ ‘ฮุนเซน’ ปมคลิปเสียง ’อังเคิล‘ จนกลายเป็นปัญหาลุกลาม ทั้งการรุกรานดินแดนไทยและข้อครหาการเอื้อนายทุนใหญ่ ผ่านการกำหนดกฎเกณฑ์ทั้ง GACP และใบแพทย์ ภท.33 อย่างเร่งรีบ จนเกิดความอลหม่านไปทั้งกระทรวงสาธารณสุข #GACP #cambodiaopnedfire
.
โดยประเด็นข้ออ้างในช่วงแรกนั้นระบุว่าเพื่อแก้ไขปัญหาลักลอบส่งออก แต่ 1 เดือนผ่านไป ในช่วง 25 มิถุนายน-25 กรกฎาคม กลับพบว่าปุ๊นไทยทะลักไปทั่วโลกแทบจะทุกทวีป ซึ่งมีการเสนอข่าวผ่านสื่อชั้นนำไล่เรียงไปดังนี้

ยุโรป : 🇩🇪 ประเทศเยอรมัน จับผู้หญิงลักลอบขนปุ๊นที่สนามบิน จำนวน 33 กิโลกรัม หลังพบว่ายัดสมุนไพรใส่กระเป๋าของลูก ซึ่งเธอเพิ่งเดินทางมาจากประเทศไทย

🇬🇧 สหราชอาณาจักร จับชายลักลอบขนปุ๊น 22 กิโลกรัมที่สนามบิน Birmingham หลังพบว่ายัดสมุนไพรใส่กระเป๋าเดินทางมาจากประเทศไทย :: การตัดสินโทษผู้ลักลอบขนปุ๊นที่สนามบิน Manchester เดินทางมาจากประเทศไทย จำนวน 31 กิโลกรัม :: จับกุมชายสองคนที่เมือง Essex หลังพบว่ามีการจำหน่ายปุ๊นที่ลักลอบขนมาจากเมืองไทย

🇪🇸 สเปน :: ชาย-หญิงถูกจับที่สนามบิน Valencia พบปุ๊น 5 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งทั้งคู่เพิ่งเดินทางมาจากไทย

เอเชีย : 🇮🇳 อินเดีย ชายหนุ่มถูกจับที่สนามบิน Karipur พร้อมยึดปุ๊นในกระเป๋าเดินทาง 23 กิโลกรัม โดยเจ้าตัวลักลอบเดินทางจากไทย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สนามบินในอินเดียยังยึดพัสดุที่ถูกส่งมาจากไทย ซึ่งข้างในเป็นปุ๊นถูกซุกซ่อนโดยมีห่อขนมบังหน้าอีกด้วย

🇧🇩 บังคลาเทศ ชายหนุ่มถูกจับที่สนามบิน Bandaranaike หลังพบปุ๊นในกระเป๋าเดินทางน้ำหนักมากกว่า 10 กิโลกรัม ยอมรับสารภาพว่าเอบมาจากประเทศไทย

🇮🇩 อินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวเรือสำราญจากประเทศไทย ถูกจับและยึดปุ๊นไฟฟ้า ขนมปุ๊นพร้อมช่อดอกครบครัน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำมาจำหน่ายในประเทศ

🇰🇭 กัมพูชา จับชาวอังกฤษได้ที่สนามบิน Phnom Penh พร้อมยึดปุ๊น 20 กิโลกรัมในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเจ้าตัวนำมาจากไทย เตรียมต่อเครื่องไปฝรั่งเศส แต่โดนจับได้ก่อน

🇲🇾 มาเลเซีย จับนักท่องเที่ยวที่ด่านชายแดน Penang พร้อมยึดปุ๊นจำนวนกว่า 50 กิโลกรัม ซึ่งลักลอบนำออกจากไทยจะไปขายในมาเลเซีย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่จับได้ ซึ่งไม่นับรวมกับอีกมากมายที่ลักลอบนำออกไปได้สำเร็จ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือผู้กระทำผิดส่วนใหญ่ ‘ไม่ใช่คนไทย‘ ดังนั้นจะอ้างโยนบาปให้สายเขียวไม่ได้ แท้จริงแล้วภาครัฐล้มเหลวในการควบคุมการส่งออกใต้ดินใช่หรือไม่ เมื่อตรรกะการควบคุมผิดเพี้ยนมาตั้งแต่เริ่ม จึงมีวิธีการที่ย้อนแย้งชวนสับสน ทั้งยังเร่งรีบจากเกมการเมืองและธงขออนายใหญ่ที่หวังใช้ ‘การปราบปุ๊น‘ เป็นผลงานหาเสียง ฝังกลบความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ และความล้มเหลวของ ’ลูกนายใหญ่-หลานอังเคิล’ ที่เคยสัญญากับคนไทยเอาไว้ว่า “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ผ่านมา 2 ปี คนไทยมีแล้วหรือยัง?