เอ๊ะ!? กลุ่มเยาวชนต้านปุ๊น ‘เซฟลูกทักษิณ‘ ปมคลิปเสียง ’อังเคิล’ ขอศาลคืนตำแหน่งนายกฯ
1 min read
จับตา! เครือข่ายเยาวชนไม่นะปุ๊นและยาเสพติด (YNAC) ซึ่งเคยจัดกิจกรรมต่อต้านปุ๊นไทย และเคยมอบดอกไม้ให้กำลังใจ สธ. aka สมศักดิ์ เทพสุทิน ในการปราบปุ๊นไทย ล่าสุดมีรายงานข่าวว่ากลุ่มนี้ไปยื่นหนังสือที่รัฐธรรมนูญเพื่อขอคืนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและลูกสาว daddy’s girl ของนายทักษิณ ชินวัตร สทร. เสมียนประเทศไทย เนื่องจากปมศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากปม ‘คลิปเสียงอังเคิล’ ซึ่งล่าสุดปะทุกลายเป็นเขมรรุกรานไทย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบคน รวมถึงเด็กและชาวบ้าน
เครือข่ายฯ นำโดยนายยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้เร่งคืนอำนาจบริหารราชการให้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลมีเอกภาพและผู้นำที่สามารถบัญชาการสถานการณ์จากภัยคุกคามจากการโจมตีของกัมพูชาได้อย่างเต็มที่ เนื่องด้วยสถานการณ์การโจมตีจากรัฐบาลกัมพูชาบริเวณชายแดน ซึ่งสร้างความสูญเสียต่อชีวิตทหารและประชาชน
ดังนั้นจึงน่าจับตาว่าการยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในครั้งนี้จะเป็นข้อครหาในการขับเคลื่อนเรื่องต่อต้านปุ๊นหรือไม่ และย่อมอาจถูกเยื่อมโยงได้ว่ามีวาระทางการเมืองกับพรรคใดหรือไม่ เนื่องจากเรื่องปุ๊นถูกมองเป็นเรื่องการเมืองหลังจากพรรคร่วมรัฐบาลแตกคอกัน จึงเป็นธรรมดาของฝ่ายที่ขับเคลื่อนเรื่องปุ๊นไม่ว่าจะสนับสนุนหรือต่อต้านย่อมต้องถูกจับตามองว่าเป็นพวกของใคร
สำนักข่าว PPTV เปิดบทคำให้สัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า เรื่องเขมรรุกรานประเทศเรา ไม่มีคนไทยคนไหนยอมให้ไทยสูญเสียดินแดน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องความขัดแย้งของบุคคลไม่กี่ตระกูล ประชาชนไม่เกี่ยว แต่ประชาชนกลับต้องมารับผลกระทบ จึงขอให้รัฐบาลช่วยดูแลทุกคนให้ปลอดภัย ขณะที่สื่อหลายอีกสำนัก เช่น สุทธิชัย หยุ่น ตั้งคำถามว่า เรารบกันเพราะสองตระกูลนี้หรือไม่ ส่วนด้านผลโพลล์ระดับมหาชนอย่างนิด้าโพลล์ เปิดเผยว่า ประชาชนไว้ใจกองทัพมากกว่ารัฐบาล โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 35% ที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากที่สุด โดยเฉพาะหลังปมคลิปเสียงอังเคิ่ล สะท้อนจากผลโพลล์ว่าคนไทยมากกว่า 2 ใน 3 ไม่ต้องการให้นายกฯ และรัฐบาลไปต่อ โดย ร้อยละ 42.37 ระบุว่า นายกฯ ควรประกาศลาออกจากตำแหน่ง และร้อยละ 39.92 ระบุว่า นายกฯ ควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป
ขณะที่ผู้ประกอบการสายเขียวที่ได้รับผลกระทบประกาศควบคุมปุ๊นฉบับใหม่ มองว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากการพลิกนโยบายชั่วข้ามคืนโดยไม่ให้ปรับตัวคล้ายเป็นวาระการเมืองแอบแฝง ขณะที่กลุ่มเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย มองว่ารัฐบาลและกลุ่มต่อต้านมักหยิบยกข้อมูลเท็จมาปลุกปั่นให้คนไทยกลัวเพื่อกำหนดนโยบายผูกขาดกลุ่มทุนคล้ายธุรกิจเหล้าเบียร์ ซึ่งมีขบวนการทำกันอย่างเป็นระบบเครือข่าย ดังนั้นจึงเตรียมไปยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เพื่อเอาผิด ม.157 กับรัฐมนตรีว่าการ นานสมศักดิ์ เทพสุทินและพวกหมอการเมืองที่เกี่ยวข้อง ฐานทุจริตเชิงนโยบายใช้อำนาจกำหนดกติการที่สร้างความเสียหายให้อุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจใหม่และริดรอนสิทธิ์ผู้ใช้