Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

จับโป๊ะ! ‘ทักษิณ’ อ้างปุ๊นทำท่องเที่ยวทรุด สวนทางสถิติชี้ “รัฐบาลล้มเหลว” สาเหตุนักท่องเที่ยวไม่มา

1 min read

‘ทักษิณ’ โผล่ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล โหมโจมตีปุ๊นไทย อ้างทำเศรษฐกิจท่องเที่ยวทรุด-นักท่องเที่ยวไม่มาเพราะปุ๊นเสรี สวนทางสำนักงานสถิติชาติระบุชัด ท่องเที่ยวไทยตกต่ำสุดในรอบ 3 ปี สาเหตุเกิดจากเรื่องความปลอดภัย-การฉ้อโกง-สงคราม ไปจนถึงเรื่องความล้มเหลวด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลจนเป็นสาเหตุให้ “เวียดนามแซงไทย”

นายทักษิณ ชินวัตร สทร.พ่อนายกฯ เปิดเผยในงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องปุ๊นเป็นปัญหาต่อการท่องเที่ยวอย่างมาก หลายที่นักท่องเที่ยวหายไปเพราะนโยบายปุ๊นเสรี ดังนั้นจึงต้องรีบกลับมาควบคุมให้ได้ จากที่ผ่านมาระบบการควบคุมไม่ดีเท่าที่ควร หน่วยงานไหนที่มีหน้าที่ดูแลควบคุมก็ต้องรักษาความปลอดภัยไว้ ซึ่งคือกระทรวงสาธารณสุข นั่นเอง

รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า ข้ออ้างเรื่องปุ๊นทำลายการท่องเที่ยวไทย ขัดแย้งจากข้อมูลสำนักสถติและผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ซึ่งพบว่าสาเหตุต่างๆ ล้วนเกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาล โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยกล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ล้วนเกี่ยวข้องกับด้านความปลอดภัย หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับดาราจีน และเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมถึงข่าวลือเรื่องภัยธรรมชาติทั้งแผ่นดินไหวและซึนามิ ขณะที่รายงานของสถาบันเศรษฐศาสตร์ของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard Economics Institute) ระบุถึงการฉ้อโกงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยระบุว่ากรุงเทพมหานครมีรายงานการถูกฉ้อโกงเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในระดับสูงกว่าหลายเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ โดยมีรูปแบบการฉ้อโกงที่พบมากที่สุดคือ หมวดรถแท็กซี่และรถเช่า (48%) ตามมาด้วยหมวดบริการด้านอาหาร (34%) และบริษัททัวร์ (9%) ส่วนด้านผลการสำรวจของดรากอน เทรล อินเตอร์เนชันแนล ในปี 2568 รายงานว่า ชาวจีนมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของประเทศไทยลดลงเหลือเพียง 19% ขณะที่ 51% มองว่าประเทศไทยมีความไม่ปลอดภัย สิ่งนี้สะท้อนว่า “กินบุญเก่า” ไม่เพียงพอ เช่นเดียวกันกับ มาตรการต่างๆ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลนั้นล้มเหลว เช่นเรื่องฟรีวีซ่า เป็นต้น อีกทั้งเรื่องความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยยังไม่เพียงพอ

ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2568 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด 14.36 ล้านคน ลดลง 2.70% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วที่มีอยู่ 14.76 ล้านคน โดยคาดว่าทั้งปีจะติดลบ 2-3% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่การเก็บข้อมูลพบว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลงกว่า 32.72% ขณะที่ญี่ปุ่นเติบโตถึง 68.1% และเวียดนามเติบโตถึง 47.2% จากตัวเลขดังกล่าวถือว่าการท่องเที่ยวเวียดนามแซงหน้าไทยแล้ว ซึ่งมีการประเมินว่า ภาพรวมทัวร์จีนเที่ยวไทยหดตัวลงถึง 40-50% ในช่วงครึ่งปีแรก จึงประเมินว่าปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเยือนไทยเพียง 5 ล้านคน หายไปมากกว่าครึ่ง เทียบจำนวน 11 ล้านคนที่ทำสถิติสูงสุดเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด

อาจารย์ภากร กัทชลี อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่า ปัญหาการท่องเที่ยวไทยคือเข้าถึงจุดอิ่มตัวทั้งในแง่แหล่งท่องเที่ยวที่ค่อนข้างกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก และปัญหาด้านการคมนาคมที่ไม่สะดวก ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมากับบริษัททัวร์ก็เริ่มลดลงตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ดังนั้น แหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมๆ อาจจะดึงดูดให้พวกเขาเข้ามาเยี่ยมเยือนได้เพียงแค่ครั้งสองครั้ง พวกเขาจึงต้องการหาแหล่งท่องเที่ยวและประสบการณ์ใหม่ในประเทศอื่นๆรอบภูมิภาคเอเชีย

ทั้งนี้ ข้อพิสูจน์ความพังพินาศของการท่องเที่ยวดังกล่าว คือกิจการของ King Power ที่ปิดร้านขายสินค้า Duty Free ในเมือง และกำลังเจรจาขอยกเลิกสัญญาร้านค้าปลอดภาษีในสนามบินหลัก ดังนั้นการกล่าวอ้างว่านักท่องเที่ยวไม่มาเพราะกลิ่นปุ๊น มันดูตื้นเขินและไร้เหตุผลเกินไป คล้ายเป็นเพียงวาทกรรมที่หยิบยกมาด้อยค่าปุ๊นไทย ซึ่งที่ผ่านมาหมอการเมืองลูกน้องนายใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุข ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เสียหายว่ามีการใช้ข้อมูลเท็จและข้อมูลบิดเบือนเพื่อใส่ร้ายตีขลุมให้ปุ๊นดูน่ากลัว เพื่อออกแบบกฎควบคุมที่เอื้อต่อผู้ประกอบการรายใหญ่และส่งผลความเสียหายจำนวนมากต่อผู้ประกอบการรายย่อย โดยเรื่องนี้มีการฟ้องร้องแล้วทั้งในศาลปกครอง เรื่องการออกคำสั่งโดยมิชอบ ไปจนถึงเตรียมฟ้องร้องต่อ ป.ป.ช.ฟันคดีอาญา ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและส่อทุจริตเชิงนโยบาย โดยอาศัยข้อมูลบิดเบือนมากำหนดนโยบายที่สร้างความเสียหายกับประชาชน เรื่องนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการโยนบาปเรื่องความล้มเหลวทางเศรษฐกิจโดยอ้างปุ๊นเสรี คล้ายกับการบิดเบือนความล้มเหลวของรัฐบาลโดยอ้างผลงานปราบปุ๊นเพื่อสร้างผลงานนำไปใช้หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วที่เวทีเลือกตั้งซ่อมศรีษะเกษและจะเกิดขึ้นอีกในการเลือกตั้งระดับชาติ

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *