โหนปุ๊นหาเสียง! ‘พรรคเพื่อไทย’ อ้างผลงานปราบสมุนไพร ไม่แคร์ผู้เสียหายนับแสนล้านบาท

ปังไม่ไหว!? “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ขึ้นเวทีหาเสียงเลือกตั้งซ่อม จ.ศรีษะเกศ โวผลงานรัฐบาลปราบปุ๊นไทย สวนทางเศรษฐกิจชาติพังพินาศ ซึ่งมีผู้ประกอบการเสียหายประเมินมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท จากนโยบายปราบปุ๊นของรัฐบาลท่ามกลางข้อครหาการเอื้อทุนใหญ่ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยจ่อฟ้อง หาเสียงเท็จ-อ้างข้อมูลปุ๊นบิดเบือน
.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ระบุว่า หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลขอออก (พรรคภูมิใจไทย) ทำให้พรรคเพื่อจึงประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติดทันที ซึ่งฝ่ายบริหารได้เรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมกันขับเคลื่อน โดยจะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทย มาดูแล เพียง 17 วัน แต่สามารถดำเนินการให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมได้ เช่นเดียวกับปัญหาปุ๊นสร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชนอย่างมากในอดีต ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้มีมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยการใช้กัญชาจะต้องได้รับใบอนุญาตจากแพทย์เท่านั้น โดยการเลือกตั้งซ่อมตรงกับวันที่ 10 สิงหาคม 2568
.
การปราศรัยดังกล่าว ไม่ได้กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดกับผู้ประกอบการหลังจากรัฐประกาศนโยบายปุ๊น ซึ่งสื่อชื่อดังระดับโลกอย่าง BBC ได้ตีแผ่เอาไว้ว่า ผู้ประกอบการปุ๊นต้องเจอกับสภาวะ “ลูกค้าลดฮวบ” จนแทบต้องปิดกิจการนับตั้งแต่ประกาศควบคุมฉบับใหม่บังคังใช้ส่งผลให้รายได้ลดลงกว่า 40-50% เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สืบเนื่องจากการเปลี่ยนกฎแบบกระทันหัน การบังคับใช้กฎหมายอย่าง “ปัจจุบันทันด่วน” ของรัฐบาลได้สร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการและทำลายความเชื่อมั่นในการลงทุนของชาวต่างชาติในด้านความไม่มีเสถียรภาพของนโยบายสำคัญ
.
“รัฐออกคำสั่งโดยมิชอบ มันทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง อย่างแรกคือทางผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีเวลาให้เราปรับตัวเลย จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ภาครัฐต้องออกมาพูดเรื่องการชดเชยต่อผู้ประกอบการ รัฐบาลก็คือคุณสามารถบังคับอะไรก็ได้ แต่คุณต้องมาเยียวยาเราด้วย” แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการกล่าวใน BBC
.
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาตอบโต้ การปราศรัยพาดพิงของพรรคเพื่อไทยว่า มีการบิดเบือนใส่ร้ายในข้อมูลปุ๊น จึงตั้งทีมกฎหมายเตรียมพร้อมเพื่อพิจารณาในฐานความผิดการหาเสียงโดยใช้ข้อมูลเท็จซึ่งอาจเข้าข่ายกฎหมายเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามข้ออ้างที่ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยปล่อยให้ปุ๊นเสรีนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือ สำนักงาน ป.ป.ส. ซึ่งสังกัดกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร อีกทั้งยังเป็นนโยบายของรัฐบาลที่บรรจุชี้แจงในรัฐสภาเรื่องการทำปุ๊นเชิงการแพทย์ ซึ่งแปลว่ารัฐบาลพรรคร่วมทุกฝ่ายเคยผลักดันเรื่องนี้ร่วมกัน
.
รายงานข่าวระบุว่า การประเมินมูลค่าเศรษฐกิจปุ๊นในประเทศไทยไว้ปีละ 280,000 ล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลของสมาคมปุ๊นภูเก็ตซึ่งพบว่า เม็ดเงินด้านเศรษฐกิจในส่วนของปุ๊นสมุนไพรนั้นหมุนเวียนในจังหวัดเกือบปีละ 200,000 ล้านบาท ส่วนด้านหอการค้าไทยได้ประเมินมูลค่าการเติบโตของเศรษฐกิจปุ๊นในปี 2025 อยู่ที่ 42,000 ล้านบาท ด้วยอัตราเติบโต 10-20% ต่อปี ส่วนข้อมูลของกรมกาแพทย์แผนไทยฯ ระบุว่า มีผู้ประกอบอาชีพบริการในสถานบริการปุ๊นทั่วประเทศสูงถึง 80,000-100,000 ราย