Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

สื่อไทยหวั่น ‘ส่วยปุ๊น’ ระบาด รัฐอ้างคุมเข้มสมุนไพรที่เสพติดน้อยกว่า กาแฟ-น้ำตาล-ยาบ้า

1 min read

สื่อไทยหวั่น ‘ส่วยปุ๊น’ ระบาด รัฐอ้างคุ้มเข้มสมุนไพรที่เสพติดน้อยกว่า กาแฟ-น้ำตาล-ยาบ้า ตั้งคำถามผลิตบุหรี่-เหล้า ต้องมี GACP-ใบแพทย์หรือไม่

ผู้สื่อข่าวจาก ThaiPBS หวั่นคุมเข้มปุ๊นเปิดช่องรัฐเรียกรับส่วยสายเขียว ยืนยันเป็นนโยบายการเมือง ทำเจ้าหน้าที่ สธ.ไม่พอใจ ขณะที่หมอปานเทพชูข้อมูล ปุ๊นเสพติดน้อยกว่า กาแฟ-น้ำตาล-ยาบ้า ส่วนหมอเดชาตั้งคำถามว่าการผลิตบุหรี่ต้องมี GACP หรือไม่ ทำไมเหล้า-บุหรี่อนุญาตให้สันทนาการโดยไม่ต้องมีใบแพทย์

ผู้สื่อข่าวจากช่อง ThaiPBS จัดรายการ The Exit มองประเด็นการควบคุมปุ๊นเกิดจากนัการเมือง เป็นนโยบายการเมืองที่เร่งรีบ จนทำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขบ่นอุบ ต้องเร่งทำงานในวันหยุด ซ้ำเร่งร่างกติกาสุดโกลาหล ไปจนถึงการขนเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ไปจัดฉากจับเยลลี่ปุ๊น มองผู้เสียหายคือตัวประกันในข้อต่อรองของสองพรรคใหญ่ โดยเชื่อว่าการควบคุมปุ๊นดังกล่าวจะไม่ทำให้ปัญหาส่วยหมดไป อาจเกิดความเสี่ยงในการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ ขณะที่ต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายที่กำหนดโดยนักการเมือง คนพวกนี้จะมองเห็นผลกระทบของผู้ประกอบการ ความเสียหายของผู้บริโภค หรือนักการเมืองปกติมุ่งให้ความสำคัญกับอะไร ทั้งนี้ยังกล่าวด้วยว่าจากการทดลองใช้ปุ๊นเป็นครั้งราวนั้น ยอมรับว่าไม่ได้ทำให้เสพติดถึงขนาดต้องใช้ทุกวัน

ด้าน ดร.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้เคยเปิดเผยว่า งานวิจัยในวารสารทางด้านการเสพติดชื่อ Drug and Alcohol dependence ได้ตีพิมพ์งานวิจั พบว่าการใช้ปุ๊นเสพติดยากกว่าการติดเหล้าและติดบุหรี่นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการใช้ โดยบุหรี่มีโอกาสเสพติดได้มากที่สุดร้อยละ 67.5 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีโอกาสเสพติดร้อยละ 22.7 ในขณะที่ปุ๊นมีโอกาสเสพติดได้เพียงร้อยละ 8.9 เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าการเสพติดบุหรี่และน้ำตาล อีกทั้งปุ๊นยังเป็นสมุนไพรที่ช่วยลดการใช้สารเสพติดอื่นได้ ซึ่งมีการส่งเสริมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ดังนั้นการออกนโยบายจะต้องอยู่ที่หลักการข้อมูลเชิงวิชาการ ไม่ใช่ทำตามคำสั่งของนายใหญ่บางคน

ขณะที่ หมอเดชา ศิริภัทร แพทย์พื้นบ้านด้านปุ๊น ประธานมูลนิธิขวัญข้าว กล่าวว่า การออกนโยบายบนฐานความจริง จะหมดปัญหามิเช่นนั้น จะถูกมองว่านโบายดังกล่าวทำเพื่อผลประโยชน์ที่ผลักดันผ่านกลุ่มนายทุนมากผลประโยชน์ โดยเริ่มจากข้อมูลของบุหรี่และเหล้านั้น ใช้เป็น “มาตรฐาน” ในการวิจัยได้ดี เพราะอยู่ในชีวิตประจำวันมานานการออกนโยบายที่ถูกต้อง และประชาชนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ต้องไม่ใช้ “สองมาตรฐาน”
เช่น บุหรี่และเหล้าใช้เพื่อสันทนาการได้ ทำไมจึงห้ามมิให้ใช้ปุ๊นเพื่อสันทนาการ เหตุใดบุหรี่และเหล้าจำหน่ายได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ แต่ปุ๊นต้องมีใบสั่งแพทย์ และเพราะอะไรใบยาสูบที่นำมาทำบุหรี่ จึงไม่ต้องปลูกด้วยมาตรฐานที่กำหนดโดยกระทรวงสาธารณสุข แม้แต่ วัตถุดิบที่ใช้ผลิตเหล้า (เช่น ข้าว หรือ กากน้ำตาล) ไม่เห็นต้องมีมาตรฐาน GACP เลย
ถ้าอ้างว่า เพราะ บุหรี่และเหล้า มี พรบ.เฉพาะควบคุมอยู่ ทำไมไม่ออก พรบ.ควบคุมปุ๊น
ทั้งหมดนี้จึงแสดงให้เห็นว่า มีการใช้ “สองมาตรฐาน” กับปุ๊น ชัดเจน หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังยืนยันจะคุมเข้มมากจนเกินจำเป็นและเดินหน้าผลักดันกลับไปเป็นยาเสพติดให้ได้ โดยไม่ยอมรับข้อเสนอและเหตุผลใดใดก็แสดงว่านักการเมืองคนนี้เลือกข้างนายทุนโดยปฏิเสธความจริงหรือไม่?

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *