สธ.ยุคเพื่อไทย ล็อกสเป็กทุนใหญ่-ผูกขาดพืชเศรษฐกิจใหม่!?

กระทรวงสาธารณสุขยุคเพื่อไทย ‘ผูกขาด-เอื้อนายทุน‘ กินรวบพืชเศรษฐกิจใหม่ปีละหลายหมื่นล้านบาท ส่อโกงโอกาสชาวบ้าน-ตกงานนับหมื่นราย ตามใบสั่งนายใหญ่ ประเมินมูลค่าเศรษฐกิจปุ๊น 280,000 ล้านบาท/ปี ตอกย้ำการเมืองยุค ‘รัฐบาลเพื่อไทย‘ มุ่งแสวงหาผลประโยชน์สุมหัวกับกลุ่มทุนหรือไม่ โดยการ ’อ้างปัญหาสังคมควบคุมพืชปุ๊น แต่กลับสนับสนุนการเปิดบ่อuเสรี’ ประเทศชาติเราตกต่ำแค่ไหนภายใต้อุ้งมือตระกูลแม้ว

ดร.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เคยกล่าวถึงแผนเอื้อนายทุนของกระทรวงสาธารณสุขในยุคพรรคเพื่อไทยว่า การกำหนดเงื่อนไขแพทย์-เภสัชกรประจำร้านค้านั้นทำให้สถานบริการส่วนใหญ่ต้องปิดกิจการ การถูกกวาดล้างเช่นนี้ ก็เพื่อไม่ให้เป็นคู่แข่งกับรายใหญ่ใช่หรือไม่ ส่วนกลุ่มที่เหลือคงมีแต่ทุนใหญ่ที่มีกำลังทรัพย์ในการจ้างบุคลากรการแพทย์

ดร.ปานเทพ กล่าวถึงกรณณีการนำปุ๊นกลับไปเป็นยาเสพติดว่า จะเอื้อกลุ่มทุนใหญ่อย่างชัดเจน เพราะทำให้เกษตรกรผู้ที่ปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้ต้องมีเภสัชกรอยู่ประจำควบคุมกิจการตลอดเวลา อันเป็นการฝืนธรรมชาติและความเป็นจริงในการดำเนินการ โดยเฉพาะหากกำหนดมาตรฐานแค่การปลูกในโรงปิดและต้องเข้มงวดแบบอุตสาหกรรมนั้นคือการล็อกสเปกให้กับกลุ่มทุนใหญ่เท่านั้นใช่หรือไม่ “สุดท้ายคนที่หนักสุดคือผู้บริโภคที่ต้องรับภาระต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น”

ล่าสุด นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเอื้อทุนใหญ่ในการควบคุมปุ๊นของพรรพเพื่อไทยว่า แนวทางควบคุมในยุคปัจจุบันนั้นไม่ให้โอกาสประชาชน ได้ปลูกและใช้ แต่ต้องซื้อจากผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่เท่านั้น โดยอ้างมาตรฐานการผลิตที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งขัดกับวิถีชาวบ้าน วิถีชุมชน ของหมอพื้นบ้าน ที่ใช้กัญชาตามตำรับยาของตนเอง มานานแสนนานแล้ว ซึ่งแตกต่างจากในยุคพรรคภูมิใจไทยที่ให้โอกาสประชาชน ปลูก ใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่เป็นยาเสพติด

ขณะที่ แถลงการณ์ของเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย ระบุว่า รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขจากพรรคเพื่อไทย อาจชอบกฎหมายยาเสพติดก็เพราะเมื่อนำปุ๊นไปขังไว้แล้ว ก็สามารถออกมาตรการเฉพาะให้กับบุคคลหรือกลุ่มนิติบุคคลเฉพาะสามารถปลูก แปรรูป จำหน่าย ส่งออกปุ๊นได้ (ล็อกสเป็ก)และนี่คือจุดเริ่มต้นของการผูกขาดปุ๊นที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านต่อปี เป้าหมายของรัฐบาลคือจุดนี้ จึงนำเยาวชนมาเป็นข้ออ้างในการผูกขาดสมุนไพรไทยมูลค่ามหาศาล และยังได้การแก้แค้นทางการเมือง วันนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงทุกประการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งตน ฉะนั้นในขณะนี้พืชปุ๊นกำลังถูกกลเกมส์ทางการเมืองควบคุมและมีแนวโน้มว่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่บางกลุ่ม

ด้านหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล กล่าวในรายการหม่อมปลื้มวิเคราะห์ว่า รัฐบาลเพื่อไทยต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าการอ้างปัญหาต่างๆนาๆเพื่อควบคุมปุ๊น แต่กลับสนับสนุนการเดินหน้านโยบาย Entertainment Complex นั้นดีอย่างไรในเมื่อสุดท้ายแล้วมันก็จะสร้างปัญหาให้กับสังคม ดังนั้นหากจะปรับเงื่อนไขคุมเข้มเพื่อเอื้อต่อนายทุนรายใหญ่จนชาวบ้านเดือดร้อนแบบนี้ งั้นไม่ควรเปลี่ยนแปลงใดใดตั้งแต่ต้น หากปล่อยให้กิจการปุ๊นดำเนินการไปเรื่อยๆจะเกิดจุดกึ่งกลางทางความเข้าใจของสังคมแค่ต้องออกแบบกฎควบคุมเยาวชนให้เพียงพอ

รายงานข่าวระบุว่า การกำหนดเงื่อนไขใหม่นั้นมีบังคับให้ทำมาตรฐาน GACP สำหรับผู้ปลูกจำหน่ายซึ่งต้องใช้เงินลงทุนหลักแสนบาท รวมทั้งระยะเวลาดำเนินการ ส่งผลให้เกิดการร้องเรียนเรื่องผูกขาดทุนใหญ่ ขณะที่ผู้ใช้ต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มด้านค่าใบรับรองแพทย์ ส่วนสถานบริการนั้นต้องถูกบังคับให้จ้างหมอมานั้งประจำในอนาคต ซึ่งตัวเลขแพทย์ยังขาดแคลนแต่กระทรวงสาธารณสุขปกปิดความจริงข้อนี้ไว้ อย่างไรก็ตาม

ในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคมนี้ จะมีการชุมนุมของเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย เริ่มเวลา 13.00 น. ณ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อคัดค้านประกาศควบคุมปุ๊นฉบับใหม่ ซึ่งส่อแววเอื้อนายทุน

ขอบคุณภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ