Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

เปิดโปง!! วาทกรรม “โยนบาปสายเขียว” อ้างข้อมูลบิดเบือน รังแกชาวบ้าน-ปกปิดความชิบหายของชาติ

1 min read

รัฐบาลเพื่อไทยอ้าง ‘ปุ๊นเสรี’ จึงยกระดับควบคุมเข้มข้น เปิดช่องเอื้อนายทุน พร้อมโยนบาปสายเขียวมาเป็นตัวชูโรงเรียกคะแนนความนิยมทางการเมือง ฝังกลบความชิบหายของชาติ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคงไปจนถึงเรื่องภาษีทรัมป์ที่อีก 7 วันยังไม่มีคำตอบ ภาคการส่งออกติดลบ การท่องเที่ยวเจ๊งระนาว ชาวบ้านหมดหวังกับอนาคต จะมีพืชเศรษฐกิจใหม่มาช่วยให้ลืมตาอ้าปาก ยังเจอหมู่มารเข้ารุกรานทั้งเครือข่ายหมอ-ข้าราชการ
อ้างข้อมูลด้านเดียวชูความชอบธรรม แต่ไม่มองผลทางเศรษฐกิจ คล้ายนักรบห้องแอร์ แบบนี้แหละ “สมกับพวกหัวหมอ”

ล่าสุด เครือข่ายกลุ่มหมออกมาจ้อหนุนล็อคปุ๊นเชิงการแพทย์ มองแคบเจาะแค่ปัญหาสังคมมาตีขลุมหนุนกระทรวงสาธารณสุข แต่สงสัยลืมมองมิติเศรษฐกิจ-ซอฟต์เพาเวอร์-ท่องเที่ยวและตัวเลขลงทุน ที่มีการเปิดนโยบายให้คนมาลงทุนทำ แล้วจู่ๆมาปิดกันจนเจ๊งระนาว เกิดความเสียหายนับหมื่นล้านบาท พวกกลุ่มหมอยังนั่งท่องคาถาเป่าหูสังคมให้พวกโลกสวย โดยไม่สนใจผู้เสียหายที่ครอบครัวได้รับผลกระทบและต้องตกงาน โดยเฉพาะวาทกรรมของหมอที่บอกไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับความจริงที่เจ้าหน้าที่กรมการแพทย์ยอมรับว่านโยบายมีการรีบเร่งลนลานจนต้องอัพเดทความคืบหน้ากันรายชั่วโมง รวมถึงระบบรองรับทั้งบุคลากร GACP จุดออกใบรับรองแพทย์ที่ไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า จะปฏิเสธว่าเป็นวิธีดำเนินการที่เร่งรีบแบบนี้-ไม่มีวาระการเมืองแอบแฝงได้อย่างไร

วาทกรรมแหกตาลักษณะนี้ยังน่าจับตามอง เมื่อเห็นกลุ่มเครือข่ายเยาวชนจ้องยื่นเรื่องคัดค้านปุ๊น แต่น่าสงสัยว่าทำไมไม่เคยมีการคัดค้านกระท่อม หรือว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของหุ่นเชิดลิเกโรงใหญ่จากใครบางคนที่ผลักดันปลดกระท่อมหรือไม่ น่าสนใจว่าเรื่องกระท่อมทั้งวงการแพทย์และกระทรสวงสาธารณสุขเงียบฉี่ ทั้งที่มันแพร่กระจายไปไกลกว่าปุ๊นหลายเท่า มีทั้งร้านแผงลอย ร้านข้างวถนน ร้านน้ำต้ม วัยรุ่นพลังใบ เยาวชนนั่งต้ม 4 x 100 กันเอิกเกริก ร้านกระท่อมมีอยู่ทั่วไปในทุกชุมชน แต่มูลค่าทางเศรษฐกิจต่างจากปุ๊นลิบลับไม่ต่ำกว่า 2 เท่าตัว เหตุใดกลุ่มหัวหมอและเจ้ากระทรวงหมอจึงเงียบฉี่โดยเลือกโจมตีพืชที่มูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่า จึงน่าสนใจว่ามีขบวนการหลอกใช้เด็กมาเป็นโล่กำบังทางการเมืองเช่นนั้นหรือ ซึ่งยังไม่นับรวมประเด็นผลประโยชน์ค่าคอมมิชชั่นค่าจ่ายยาแผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง hidden agenda ที่หมอออกมาต่อต้านเพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ตรงนี้ไว้


“เมื่อครั้ง รัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการปลดพืชกระท่อมออกจากพ.ร.บ.ยาเสพติด ตอนนี้น้ำกระท่อมกลายเป็นปัญหาที่มีขายทุกตรอก ซอกซอย ส่งผลให้เด็กและเยาวชนนำไปผสมทำยาเสพติดที่เรียกว่า 4 x100 จนเกิดอาการคลั่ง อาละวาดไปทั่ว และสมองเสื่อม นี่คือผลงานบาปที่ทิ้งไว้หรือไม่ โดยปล่อยให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องรับตามยถากรรมต่างหาก” นายศุภชัย ใจสมุทรกล่าว สมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

การกล่าวอ้างข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มต่อต้านบางกลุ่มที่มีการจัดประชุมกันอิกเกริกโดยไม่แน่ใจว่ามีการใช้งบประมาณจากภาครัฐที่มาจากภาษีประชาชนมาจัดงานโจมตีปุ๊นหรือไม่ แถมยังมีคนกล่าวอ้างตัวเลขข้อมูลเท็จพูดวนไปแบบ Propaganda ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเยาวชนใช้ปุ๊นเพิ่มขึ้น 10 เท่านั้นเป็นข้อมูลปลอม มีคนท้าฟ้องศาลเปิดข้อมูลก็ยังไม่เห็นมีใครกล้าเหมือนตอนเอามากล่าวอ้าง เช่นเดียวกับ ดร.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่จับโป๊ะเรื่องที่กลุ่มเครือข่ายหมออ้างว่าปุ๊นทำให้งบประมาณดูแลผู้ป่วยจิตเวทเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาทนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตรวจพบงบประมาณเพียง 70 ล้านบาท ขณะที่การอ้างว่าปุ๊นทำให้ตัวเลขผู้ป่วยทางจิตเพิ่มขึ้น 48,000 คนนั้น พอไปดูจริงมีเพิ่มขึ้นแค่หลัก 1,000 คน พฤติกรรมเหล่านี้สวนทางกับประเทศที่เจริญแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ประชากรไม่โง่ให้ถูกหลอกง่ายจึงมีงานวิจัยปุ๊นเชิงการแพทย์มากมายกว่า 30,000 ฉบับ ที่ยืนยันประโยชน์ในทุกมิติไปจนถึงการนำภาษีมาสร้างสาธารณะประโยชน์ ไม่เหมือนหมอไทยที่มุ่งเอาข้อมูลงานวิจัยง่อยๆในไทยมาโจมตีโดยปฏิเสธงานวิจัยระดับโลกของประเทศอื่น ปกปิดไม่เอามาเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ นี่ยิ่งตอกย้ำความศิวิไลซ์ที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว

แต่ความเหลี่ยมของ สธ.ยุคแม้ว คือการใช้วาทกรรมการเมืองโจมตีปุ๊น อ้างเป็นปัญหาหนักหนา แต่พอบทตัวเองจัดงานมหกรรมสมุนไพร “ก็พลิกลิ้น” อวยปุ๊นว่าเป็นพืชซอฟต์เพาเวอร์วัฒนธรรมนวดไทยได้แบบหน้าตาเฉย สวนทางกับวาทกรรมที่พ่นโจมตีสายเขียวเพื่อเอาคะแนนเสียงทางการเมือง สิ่งที่ชัดเจนที่สุดของกลุ่มหัวหมอและเครือข่ายพวกนี้คือการหยิบยกข้อมูลด้านเดียวมาโจมตี พร้อมเหมารวมว่าผู้บริโภคปุ๊นเป็นพวกคนสูบทั้งหมด โดยไม่สนใจว่ามันมีกลุ่มคนป่วย กลุ่มเกษตรกรชาวบ้าน กลุ่มผู้ประกอบการตัวเล็กตัวน้อยและกลุ่มนักท่องเที่ยวรวมอยู่ด้วยโดยเฉพาะคนใช้เชิงการแพทย์ที่มีอยู่ถึง 75% เมื่อฝ่ายต่อต้านมืดบอดจึงกล่าวอ้างข้อมูลแบบทึ่มทื่อ โดยใช้ข้อเสียส่วนน้อยมาสร้างความกลัวให้กับสังคมไทยที่เคยชินกับการถูกทำให้กลัวแล้วปกครอง โดยตัดทิ้งข้อมูลประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและสุขภาพซึ่งสามารถกระจายเงินไปสู่ฐานรากได้ สะท้อนแนวคิดของประเทศไม่พัฒนาที่มีวิถีปฏิบัติแตกต่างจากชาติอื่นๆ

รัฐบาลพยายามชูประเด็นปุ๊นเล่นใหญ่หวังลมๆแล้งๆว่าจะหวาดคะแนนความนิยมด้านการปราบยาเสพติดมากล่าวอ้างว่าเป็นผลงานของรัฐบาล ความพยายามทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงการตีขลุมเพื่อฝังกลบปัญหาความชิบหายที่รัฐบาลชุดนี้ทิ้งเอาไว้ สะท้อนภาพการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มุ่งแก้ปัญหาทางการเมืองมากกว่าการแก้ปัญหาของประเทศชาติ ในขณะที่ความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า รายได้ฝืดเคือง ค่าครองชีพสูง หนี้ครัวเรือนท่วม โรงงาน-ห้าง-ร้าน-บริษัททยอยปิดตัว คนตกงาน เศรษฐกิจโตต่ำ การซื้อขายในตลาดเงียบเหงา หนี้ครัวเรือนท่วมสูงที่สุดในโลก ปัญหาเฉพาะหน้ายังแก้ไม่ได้ ส่วนปัญหาความมั่นคงไทย-เขมรคงไม่ต้องพูดถึง ระดับนักลงทุนยังไม่รอด ตลาดหุ้นไทยดิ่งลงเท่าช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์โดยมีดัชนีตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจไทยพังคามือในยุคของรัฐบาลแพทองธารจากพรรคเพื่อไทย รายได้เกษตรกรตกต่ำแทบทุกพืช ทั้งข้าว อ้อย มันสำปะหลัง รวมถึงข้าวโพด โดยรายได้ชาวนาลดลงตั้งแต่นาปีถึงนาปรังเกือบ 20% ล่าสุดข้าวราคาเหลือตันละ 5,000 บาท จากเดิมที่เคยทะลุ 20,000 บาท ซ้ำร้ายรัฐบาลยังอ้างข้อมูลบิดเบือนปิดล็อคพืชเศรษฐกิจใหม่ปีละ 280,000 ล้านบาท ที่จะช่วยให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ แต่กลับเอาไปผูกไว้กับมือนายทุนซ้ำรอยธุรกิจเหล้าเบียร์ ส่วนด้านปัญหาค่าครองชีพก็เด่นชัดในเมื่อของแพงทุกอย่างแต่ค่าแรงไม่ปรับขึ้น ความเหลื่อมล้ำรุมโทรมคนไทยจนไม่มีความหวังจะยกระดับฐานะตัวเองได้ แม้จะอ้างผลงานปราบยาเสพติด แต่สวนทางกับยาบ้าแพร่กระจายไปทุกชุมชน และตัวเลขคนเมาแล้วขับสูงติดอันดับต้นๆของโลก สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและเศรษฐกิจ แต่คนดื่มเหล้าไม่ต้องมีใบจ่ายยาบ้างเหรอ ?

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับประเด็นด้านเศรษฐกิจ โดยระบุว่า รัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งด้านเศรษฐกิจ แต่ความสำเร็จที่ได้มาเป็นเพราะโชคช่วย เพราะนายกฯ ไม่มีความรู้และไม่มีความเชี่ยวชาญจนบริหารเศรษฐกิจล้มเหลวคามือ ไม่เหมือนกับที่โฆษณาไว้ จนทำให้ประชาชนหวนนึกถึงรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร มองว่าเศรษฐกิจดีกว่านี้ทั้งที่ก็เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *