ดีเดย์!! เริ่มใช้กฎควบคุมใหม่ ใบรับรองแพทย์-GACP มีผลทันที

วันที่ 25 มิถุนายน 2568 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (ปุ๊น) พ.ศ. 2568 ซึ่งจะมีผลทันทีในวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญคือ
1)ผู้ซื้อต้องมีใบสั่งจ่ายจากแพทย์
2)การกำหนดมาตรฐานการปลูกปุ๊นที่นำมาจำหน่ายและส่งออกจะต้องผ่านมาตรฐาน GACP ที่กำหนดโดยกรมการแพทย์แผนไทยฯ โดยอิงจากแนวทางปฏิบัติที่ดีในการผลิตของสหภาพยุโรป (EU GMP) หรือ มาตรฐานรับรองอินทรีย์ (Organic) ของกรมวิชาการเกษตร
3)อนุญาตให้แพทย์สั่งจ่ายช่อดอกปุ๊นได้ครั้งละ 30 กรัม ต่อ 30 วัน หรือเฉลี่ยวันละ 1 กรัม
4)ปรับปรุงเรื่องเกณฑ์การออกใบอนุญาตจำหน่ายและส่งออกปุ๊น โดยให้อำนาจอธิบดีกรมการแพทย์ฯ ไม่ต่อใบอนุญาตได้หากร้านมีประวัติถูกพักใช้ใบอนุญาต
5)ห้ามเติมในร้าน ยกเว้นว่าจะมีแพทย์ในรูปแบบคลินิกปุ๊น
6)ห้ามโฆษณาช่อดอกปุ๊นในทุกช่องทาง รวมถึงการโปรโมตในรูปแบบต่างๆ

ด้านสมาพันธ์ปุ๊นเพื่อประชาชนเคยให้ความเห็นว่าการประกาศกฎควบคุมกัญชาฉบับใหม่ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้ต้องมีใบรับรองแพทย์นั้น เปิดช่องให้ตำรวจสามารถตั้งด่านตรวจสายเขียวเหมือนในอดีตได้อีกครั้ง ซึ่งอาจถึงขั้นตรวจยึดดอกไม้และตรวจสุขภาพ เมื่อพบว่าเป็นผู้ใช้กัญชา ตำรวจจะขอดูใบรับรองแพทย์ หากไม่มีจะถูกตีว่าใช้กัญชาในเชิงสันทนาการ-ไม่ได้ครอบครองไว้เพื่อการแพทย์ ซึ่งมีความผิดทั้งโทษอาญาและค่าปรับตามกฎหมายควบคุมฉบับใหม่ เนื่องจากรัฐบาลเขามีธงยอมรับเพื่อใช้ทางการแพทย์เท่านั้น

อย่างไรก็ตามการออกมาตรการดังกล่าวแบบไม่มีอะไรรองรับ ไม่ว่าจะเป็นด้านบุคลากรตรวจรับรอง GACP สถานที่สำหรับออกใบรับรองแพทย์ หรือไม่มีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านที่เหมาะสมนั้นอาจเข้าข่าย “เป็นคำสั่งทางปกครองที่ทำให้ต้องรับภาระเกินสมควร หมายถึง คำสั่งที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องแบกรับภาระมากกว่าที่ควรจะเป็นตามสมควร แม้คำสั่งดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายแต่ก็ขัดต่อความเหมาะสมและความเป็นธรรม”

นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประกาศนี้ออกมาเพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการสันทนาการ ดังนั้น หากมีผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดทางกฎหมายทั้งหมด มีโทษปรับโทษจำคุก เรื่องนี้ไม่ได้กระทบกับผู้ป่วยอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นผู้ใช้เพื่อสันทนาการ อันนี้กระทบแน่นอน ส่วนเรื่องตลาดใต้ดินจะกลับมานั้นมองว่าหากเกิดออกนอกลู่นอกรอย ก็อาจจะต้องมีมาตรการแรงมากขึ้น เช่น เอาปุ๊นกลับสู่ยาเสพติด