จูบปาก!? กลุ่มทุนหนุนปุ๊นเชิงการแพทย์ อ้าขารอ ‘หมอสั่งจ่ายยา-GACP’ ด้านผู้ค้ารายย่อยลุยฟ้องศาลเรียกร้องความเป็นธรรม

นางสาวณัฐธัญรดี ปรีณาภาชัยสิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เปิดเผยกับ Channel Weez Thailaก ว่า การหารือพูดคุยระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการปุ๊นรายใหญ่และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ) ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ผู้ประกอบการสนับสนุนปุ๊นเชิงการแพทย์ ซึ่งประกอบด้วยเงื่อนไข การใช้ใบสั่งจ่ายยาจากแพทย์ การบังคับใช้มาตรฐาน Thai GACP และการมีแพทย์ประจำร้านในอนาคต เป็นต้น โดยในอนาคตคาดว่าจะมีการปรับให้สถานบริการไปอยู่ในรูปแบบคลินิกมากขึ้น ถึงจะสามารถบริโภคปุ๊นในร้านได้ต้องมีหมอสั่ง ซึ่งในส่วนของใบรับรองแพทย์นั้นมีความกังวลว่าหมอส่วนใหญ่อาจไม่จ่ายยาปุ๊นสมุนไพรด้วยทัศนคติเชิงลบส่วนตัว จึงเรียกร้องให้ สธ.ดำเนินการรวบรวมรายรายชื่อและจุดออกใบรับรองแพทย์สำหรับผู้ใช้ปุ๊น พร้อมเสนอให้มีการจัดอบรมพนักงาน ระยะเวลาคอร์ส 1-3 วัน เพื่อเลื่อนระดับเป็นผู้ช่วยแพทย์ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ปุ๊นให้ผู้ใช้บริการ แต่ยังคงล็อคว่าให้แพทย์จ่ายยาได้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการเสนอให้ใช้ระบบการออกใบรับแรงแพทย์แบบออนไลน์ผ่านระบบ Tele-Medicine เพื่อความสะดวกรวดเร็วของผู้ใช้และนักท่องเที่ยว รวมถึงไม่เป็นภาระของผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งล่าสุด สธ.ได้ออกแบบฟอร์มสำหรับใบรับรองแพทย์แล้วชื่อว่า ภท.33

นางสาวณัฐธัญรดี กล่าวอีกว่า ขณะที่ประเด็นมาตรฐาน GACP นั้นได้มีการเรียกร้องให้ สธ.ดำเนินการอนุมัติผู้ขใบอนุญาตทั้งหมดภายใน 90 วัน เนื่องจากปัจจุบันมีฟาร์มที่ได้รับมาตรฐาน Thai GACP เพียง 43 ฟาร์มจากฟาร์มที่มีทั้งหมดนับพันแห่ง อย่างไรก็ตาม สธ.ยังได้เพิ่มหมวดมาตรฐานที่เทียบเท่าได้แก่ GACP, EU GMP และมาตรฐานพืชอินทรีย์ Thai Organic ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งแนะนำว่ามาตรฐาน Thai Organic ควรส่งเสริมให้ผู้ปลูกรายย่อยไปดำเนการเพราะใช้เงินทุน ขั้นตอนและเวลาน้อยกว่า Thai GACP อยู่มาก อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ระบุว่า ผลผลิตดอกไม้ปุ๊นนั้นหากพิสูจน์ว่ารับเข้าร้านมาก่อนวันที่กฎควบคุมใหม่จะประกาศ ยังสามารถจำหน่ายได้ต่อไป แต่หลังจากประกาศแล้วของที่รับเข้าร้านจะต้องเป็น Thai GACP ทั้งหมด ซึ่งยังคงกำกวมเนื่องจากในประกาศดังกล่าวไม่ได้มีระบุห้วงเวลาให้ปรับตัวไว้

ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการ สธ. กล่าวว่า วันนี้ได้หารือแล้วจนเข้าใจร่วมกันทุกฝ่าย ตนรู้ว่าผู้ประกอบการอึดอัดใจและร้อนใจ เรื่องของการนำปุ๊นกลับไปเป็นยาเสพติด ขอยืนยันว่าธุรกิจต้องทำได้ในทางการแพทย์เราจะสนับสนุนเต็มที่ หากวันข้างหน้าเอาไม่อยู่หรือแนวทางของสังคมอยากให้กลับไปเป็นยาเสพติด ตนจึงมาช่วยแก้ไขและขอให้แก้ไขปัญหาร่วมกัน ตนอยากให้มีเงินมีทองเข้าประเทศ แต่ก็ต้องทำให้ไม่มีปัญหากับผู้อื่นด้วย ดังนั้นเมื่อมีการลงทุนแล้วต้องบอบช้ำ เชื่อว่าผู้ประกอบการที่ดี สู้ได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นยาเสพติดหรือไม่ก็ตาม

นายกาจกนิษฐ์ ศักดิ์สุภา นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนสมุนไพรไทยและอุปนายกสมาคมผู้ประกอบการร้านกปุ๊น ระบุว่า ผู้ประกอบการมีความหนักใจกับข่าวที่ได้ยินมาจากสื่อต่างๆ ในทิศทางที่ปุ๊นจะกลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งเราสนับสนุนการใช้ปุ๊นทางการแพทย์อยู่แล้ว และสนับสนุนผู้ประกอบการน้ำดีในประเทศไทยที่เข้าใจบริบทการใช้ปุ๊นทางการแพทย์จะสามารถประคองธุรกิจตัวเองไปได้ ไม่ว่าบริบทหรือคำจำกัดความปุ๊นจะออกมาในรูปแบบไหนก็ตาม ผู้ประกอบการขอสนับสนุนแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

รายงานข่าวจาก Channel Weez Thailand ระบุว่า เครือข่ายผู้ประกอบการรายย่อยและนักปลูกชาวบ้านมากกว่า 1,000 ราย ได้จัดตั้งกลุ่มเพื่อรวมตัวกันฟ้องร้องรัฐบาลผ่านศาลปกครองรวมถึงการฟ้องร้องทางแพ่งและการฟ้องร้อง ม.157 เพื่อเอาผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดติดคุก โดยให้นิยามประกาศเผด็จการดังกล่าวว่าเป็นการบีบบังคับผู้ประกอบการหลายหมื่นแห่งให้ต้องหยุดดำเนินกิจการ เนื่องจากประกาศที่ไม่เป็นธรรมขัดต่อบริบท เพราะรัฐไม่ได้เตรียมการรองรับที่เพียงพอ ทั้ง บุคลากรตรวจ GACP 4-6 คนกับฟาร์มนับพันแห่ง จุดออกใบรับรองแพทย์ที่ยังไม่มีแน่นอน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อความเสียหายเชิงธุรกิจและไม่มีระยะเวลาที่เหมาะสมให้ปรับตัว จึงเป็นช่องทางให้าฟ้องแบบหมู่ (Class Action) เพื่อขอให้ศาล “ทุเลาการบังคับใช้” คำสั่ง/ประกาศปกครองไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาสุดท้ายในคดี