มาตามนัด!! ‘นายกฯ’ คว่ำปุ๊นเสรี มีคดีรอเพียบ ส่อหลุดเก้าอี้-ลี้ภัย-ติดคุก!?

ปิดฉากปุ๊นเสรี! เมื่อนายกรัฐมนตรี นส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศลั่น เน้นผลักดันปุ๊นเพื่อการแพทย์-สั่งจ่ายยาผ่านใบรับรองแพทย์ ด้านสายเขียวจ่อฟ้อง นายกฯ หวังเอาติดคุก ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญนัด 1 กรกฎาคม ชี้ชะตาอุ๊งอิ๊ง เสี่ยงหลุดเก้าอี้นายก ด้าน ป.ป.ช.นัดถกปมคลิปหลุดฮุนเซน ส่อโดนสั่งฟังผิดจริยธรรม-ตัดสิทธิ์ห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดยืนของรัฐบาลเรื่องปุ๊นเสรี ภายหลังนายซูการ์โน มะทา สส. พรรคประชาชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลคืนสถานะปุ๊นกลับเป็นยาเสพติด ว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วที่จะทำเรื่องปุ๊นเพื่อการแพทย์ และจะเร่งทำเพื่อกำหนดให้ใช้พืชปุ๊นเพื่อการแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อถูกถามว่าเรื่องยาเสพติดจะมีการขยายไปจับกุมที่ฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายกฯ กลับเดินหนีนักข่าวโดยไม่มีคำตอบใดใด จึงน่าสนใจว่าเรื่องนี้ กล้าปราบปุ๊น-แต่ไม่กล้าปราบยาเสพติดเขมร อย่างนั้นหรือ??

เปิดแฟ้ม! ผลศึกษาของเครือข่ายสายเขียว งัดข้อหาฟ้องร้องรัฐบาล พุ่งเป้า ม.157 ละเว้น/ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หวังลากคอผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าคุก!! ควบคู่ไปกับการฟ้องศาลปกครองเพื่อระงับคำสั่งที่ออกมาโดยมิชอบในประกาศควบคุมฉบับใหม่ จากนั้นจะเดินหน้าไปศาลรัฐธรรมนูญและผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อฟ้องร้องรัฐในฐานละเมิดสิทธิ์บริโภคและการละเมิดสิทธิ์ผู้ประกอบอาชีพสุจริต ภายหลังจากรัฐเปิดให้ทำธุรกิจปุ๊นแต่กลับคลอดนโยบายที่ทำให้ผู้ประกอบการเสียหาย ซึ่งเรื่องนี้มีเคสที่ประเทศเม็กซิโกมาแล้วโดยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินลงโทษรัฐบาลที่ห้ามใช้ปุ๊นสันทนาการเพราะถือว่าละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาชน นอกจากนี้ยังมีแนวทางการฟ้องศาลที่เกี่ยวข้องและอาจโยงใยไปถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ล็อคเป้าทั้งช้าราชการ-นักการเมือง-รัฐมนตรีทุกคนที่เซ็นอนุมัติการควบคุมปุ๊น เตรียมเจอข้อหาหนัก ม.157 เรื่องการละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งข้อหานี้พาผู้มีอำนาจเข้าคุกมาหลายคนแล้ว ส่วนด้านค่าเสียหายที่ประเมินไว้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท จะมีการเดินหน้าฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าชดเชย รวมทั้งอาจขยายแผลไปเรียกค่าชดเชยบุคคลในขบวนการที่มีส่วนทำให้ผู้ประกอบการปุ๊นเสียหายอีกด้วย

รัฐบาลสะเทือน!? นายกฯ จ่อขึ้นเขียงคดีคลิปหลุดฮุนเซน หลังโดนฟ้องไปมากกว่า 10 คดี หลากหลายศาลและหลากหลายหน่วยงานตรวจสอบ หวั่นเกรงว่านายกฯ จะต้องลี้ภัยหนีคำตัดสินคดีเหมือนนายใหญ่และคุณอาสุดเลิฟหรือไม่ เริ่มจากศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมด่วนวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ พิจารณารับคำร้องปมคลิปเสียงฮุนเซน-พร้อมสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีระหว่างพิจารณาคดี ที่อาจมีโทษสูงถึงติดคุก ขณะที่ด้าน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สั่งตั้งทีมด่วนมุ่งพิจารณาปมนายกฯ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปมคลิปเสียงกับฮุน เซน ซึ่งจะนำไปสู่การถูกสั่งให้พ้นตำแหน่งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ส่งผลให้ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ตลอดชีวิต ซ้ำรอยกับ “เอ๋ ปารีณา” นี่ยังไม่นับรวมการแจ้งความของภาคประชาชนในข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงปมคลิปเสียงหลุด โดยเข้าข่ายข้อหาผิดต่อความมั่นคงของรัฐซึ่งเป็นคดีอาญามีโทษจำคุกแน่นอน นอกจากนี้ยังมีคดีอีกมากมายที่เป็นคดีระเบิดเวลาทางการเมือง ไม่ว่าจะเรื่อง การแต่งตั้งนายพีระพันธ์-ที่ดินอัลไพน์- สทร.ป่วยทิพย์ชั้น 14 เป็นต้น

สำนักข่าวระดับโลก Reuter รายงานว่า นายกฯ แพทองธาร กำลังเผชิญมรสุมทางการเมืองอย่างหนักจากพิษคลิปเสียงฮุน เซน ระหว่างที่ไทยและกัมพูชากำลังเผชิญหน้าความขัดแย้ง เกิดปัญหาจนทำให้แพทองธารโดนกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งหรือประกาศจัดการเลือกตั้ง ดลยเถิดไปจนถึง ‘ภาพหลอน’ ว่าอาจจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้ง หลังนักวิจารณ์ต่างกล่าวโทษว่า นายกฯ หญิงไทยกำลังบั่นทอนประเทศและเสี่ยงทำให้ไทยต้องเสียดินแดน ถึงขนาดที่สื่อไทยหลายแห่ง อย่างเช่น สำนักข่าวอิศรา เริ่มเสนอประเด็น “ย้อนรอยจุดจบ 5 นายกฯ ใต้ร่ม ชินวัตร ก่อนถึงยุค ‘แพทองธาร’ ติดคุก-ยึดทรัพย์-ลี้ภัยต่างแดน” ฉายภาพให้เห็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและข้าราชการค่ายพรรคสีแดงในอดีตหลายรายที่ต่างติดคุกกันถ้วนหน้า ยกเว้นเพียงคนเดียวคือนายใหญ่ที่ได้ลี้ภัยอย่างชื่นมื่นผ่านประเทศกัมพูชาโดยความช่วยเหลือจากฮุน เซน