Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

โลกเตือนไทย!! ผู้ประกอบการเสี่ยงเจ๊ง 90% ตกงานนับหมื่นราย ชาติเสียหาย 2.8 แสนล้านบาท

1 min read

สื่อชื่อดังระดับโลก DW เผยแพร่บทความวิเคราะห์ทิศทางปุ๊นไทยหลังปรับกฎใหม่ ตะลึง!! สถานบริการเสี่ยงปิดตัวกว่า 9,000 แห่ง คิดเป็น 90% ด้านสหพันธ์ยาเสพติดโลกเตือนไทยเร่งเกมหักดิบปุ๊น-เสี่ยงปัญหาเชิงเศรษฐกิจ ตลอดจนกระทบการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีหลายหมื่นตำแหน่ง

นางสาว Gloria Lai สหพันธ์นโยบายยาเสพติดระหว่างประเทศ (IDPC) เปิดเผยกับสำนักข่าว DW ว่า การประกาศควบคุมพืชปุ๊นฉบับใหม่ของไทยเป็นการเร่งรีบเกินไปโดยไม่เห็นด้วย เพราะอาจเป็นการแก้ปัญหาผิดจุด การเพิ่มเงื่อนไขซื้อ-ขายปุ๊นประเทศไทยนั้นคงจะสามารถแก้ปัญหาการลักลอบส่งออกไปต่างประเทศได้จริงหรือ?

“กรอบเวลาที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญของการปรับเปลี่ยนกติกาใดๆ การเร่งรีบเกินไปย่อมนำมาซึ่งความสับสน นำไปสู่เรื่องกระทบกับผู้บริโภคและเกิดปัญหากับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน” นางสาว Gloria Lai

นางสาว ณัฐธัญรดี ปรีณาภาชัยสิริ แกนนำสหพันธ์ปุ๊นไทย เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า การปรับเกณฑ์ควบคุมปุ๊นนั้นเสี่ยงจะสูญเสียเม็ดเงินในอุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจใหม่ 280,000 ล้านบาท หากผู้ประกอบการหลายเจ้าไม่สามารถเดินต่อได้ ซึ่งตนมองว่าบางเรื่องก็เป็นการวางมาตรฐานที่ดีสำหรับปุ๊นเชิงการแพทย์ของไทย แต่สิ่งที่ยังไม่เห็นด้วยคือการกำหนดเกณฑ์ Thai GACP สำหรับผู้ปลูกรายย่อยซึ่งต้องใช้ทุนราว 100,000-300,000 บาท/ฟาร์ม ถือเป็นภาระต้นทุนที่สูงเกินไปสำหรับคนตัวเล็กตัวน้อย ทั้งที่แค่ใช้เกณฑ์ใบอนุญาตมาตรฐาน GAP ก็เพียงพอแล้วตามมาตรฐานพืชปลอดสารพิษของไทยที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ไม่ยาก

หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อคปุ๊นมา 3 ปี เกิดสถานบริการมากกว่า 10,000 แห่ง ดังนั้นการปรับกฎใหม่จึงเสี่ยงกระทบรุนแรงต่อผู้ประกอบการ ซึ่งนางสาว ช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา แกนนำเครือข่ายเขียนอนาคตปุ๊นไทย เปิดเผยกับ DW ว่า การประกาศกฎควบคุมใหม่จะทำให้สถานบริการกว่า 90% หรือราว 9,000 แห่ง เสี่ยงต้องปิดตัวลง ซึ่งร้านค้าที่เหลือรอดเพียง 1,000 แห่ง นั้นจะเป็นพวกกลุ่มทุนใหญ่ที่มีทรัพยากรสูง โดยเฉพาะร้านใหญ่ตามแหล่งท่องเที่ยวเน้นลูกค้าชาวต่างชาติ ส่วนผู้ประกอบการและผู้ปลูกรายย่อยจะถูกบีบให้ปลูกใช้เอง เนื่องจากใบรับรองแพทย์เป็นสิ่งที่มากเกินไปสำหรับผู้บริโภคส่วนบุคคล แน่นอนว่าเธอไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้แน่นอน

ขณะที่นายรัฐพล แสนรักษ์ แกนนำสมาพันธ์ปุ๊นเพื่อประชาชน และผู้นำเครือข่าย Highland Network กล่าวกับ DW ว่า การปรับกติกาใหม่นั้นจะกระทบต่อผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวเนื่องในอุตสาหกรรมซึ่งมีอยู่หลายหมื่นตำแหน่งตามปริมาณสถานบริการที่มีมากกว่า 10,000 แห่งในไทย ดังนั้นการประกาศอย่างเร่งด่วนโดยขีดเส้นกรอบเวลาแค่ 40 วัน จึงไม่มีความสมเหตุสมผลในด้านการเตรียมตัวเปลี่ยนผ่านของกลุ่มผู้ประกอบการ

“ประกาศควบคุมปุ๊นโดยกระทรวงสาธารณสุขไม่มีความยั่งยืน เพราะไม่ได้การันตีว่ากติกาปุ๊นนี้จะเปลี่ยนอีกไม่ได้ ทั้งยังเป็นการเปลี่ยนโดยใช้อำนาจคนเดียงคนเดียวคือรัฐมนตรี ดังนั้นภาครัฐควรเร่งผลักดันกฎหมายควบคุมระดับพระราชบัญญัติ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานสำคัญต่อผู้ประกอบอาชีพและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน” นายรัฐพล กล่าว

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *