Channel Weed Thailand

420PRODUCTION.CO.,LTD

ยอดสั่งปุ๊นไทยจ่อพุ่ง หลังยุโรปเตรียมเปิดตลาดใหญ่ 5 ประเทศ ดันออเดอร์ส่งออกเติบโตต่อเนื่อง

1 min read

สำนักสถิติระดับโลก Prohibition Partners เปิดเผยคาดการณ์ปริมาณความต้องการปุ๊นสมุนไพรเชิงการแพทย์ของทวีปยุโรปจ่อพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ หลัง 5 ประเทศใหญ่เดินหน้าปลดล็อกปุ๊นเสรีปีนี้ คาดดันออเดอร์สั่งจองปุ๊นไทยเริ่มกระเตื้อง หลังผลผลิตฝั่งตะวันตกขาดตลาด 80% แหล่งข่าวเผยมียอดจองเข้ามาตอนนี้สูงเฉียด 10,000 กิโลกรัม บางส่วนเน้นดอกไม้เชิงการแพทย์ T8C ต่ำกว่า 1% ส่วนใหญ่ใช้มาตรฐานยุโรป ไร้เงา GACP ของไทย

จับตายุโรปปลดล็อกปุ๊นเชิงการแพทย์ 5 ประเทศใหญ่ เริ่มจากการต่อยอดของเดิมอย่าง สเปนและฝรั่งเศส รวมถึงประเทศตลาดใหม่แกะกล่องกำลังซื้อสูงอย่าง เดนมาร์ค สโลวีเนีย และยูเครน ซึ่งสำนักข้อมูล Statista คาดการณ์มูลค่าตลาดของปีนี้อยู่ที่ 60,900 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 68,600 ล้านบาทในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งประเทศสเปนถือเป็นตลาดแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป ขณะที่ฝรั่งเศสมีผู้บริโภคปุ๊นเชิงการแพทย์มากที่สุดในยุโรป ส่วนเยอรมนีเป็นตลาดปุ๊นเกิดใหม่ขนาดใหญ่ที่ยอดสั่งจองสูงมาก ขณะที่ 3 ประเทศน้องใหม่อย่าง เดนมาร์คนั้นมีผู้บริโภคปุ๊นเพื่อสุขภาพเติบโตเพิ่มขึ้น 3 เท่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา ด้านสโลวีเนียและยูเครนนั้นยังเป็นตลาดใหม่ที่มีความท้าทายสูง

ด้านแหล่งข่าวจากเครือข่ายผู้ประกอบการปุ๊นไทย เปิดเผยว่า ตลาดในเมืองนอกหรือตลาดในต่างประเทศกำลังอยู่ในสภาวะขาดแคลนปุ๊นสมุนไพรเชิงการแพทย์ Cee-BD กว่า 80% ซึ่งทางต่างประเทศขอเอกสารผลการตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบ (Certificate of analysis; COA) เพื่อยืนยันว่า T8C ไม่เกิน 1% นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังสอบถามถึงการผลผลิตช่อดอกปุ๊นในไทย ซึ่งแว่วมาว่าต้องการถึง 9,000 กิโลกรัม โดยเน้นที่สมุนไพรสายพันธุ์ละมากกว่า 50-100 กิโลกรัมขึ้นไป พร้อมขอใบ COA วิเคราะห์ค่าสารและสารตกค้างเพื่อยืนยันความสะอาด โดยฟาร์มต้องมีมาตรฐาน GAP หรือ GACP หากใครสนใจโอกาสในการเจาะเวทีต่างประเทศ สามารถกระซิบมาสอบถามข้อมูลได้เลย

นอกจากนี้เครือข่ายผู้ประกอบการยังได้มีการแบ่งปันมุมมองในการเจาะตลาดโลกว่า สิ่งสำคัญอาจไม่ใช่ GACP ของไทยซึ่งพบว่ามีการขบวนการฉ้อฉลเรียกรับค่าทำเอกสารถึงหลักแสนหลักล้านบาท ซึ่งอาจใช้ไม่ได้ในการส่งออกทั้งหมด แต่สามารถเป็นมาตรฐานการันตีเบื้องต้นของฟาร์มได้ แต่ที่สำคัญคือตลาดยุโรปต้องการมาตรฐานยุโรปเป็นหลักอย่างเช่น EU-GMP เป็นต้น ดังนั้นฟาร์มที่จะส่งออกต้องเตรียตัวเข้าระบบอุตสาหกรรม กล่าวคือต้องมีผลผลิตสม่ำเสมอทุกเดือน สามารถทำได้ทั้งรูปแบบ T8C สูง ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต และทั้งแบบแนว Cee-BD สูงที่กำหนดให้ T8C ไม่เกิน 1% นอกจากนี้ฟาร์มยังควรมองหาเอกชนด้านโลจิสติกส์ในการส่งออกที่เป็นมืออาชีพซึ่งเขาจะมีใบอนุญาตการขนส่งและมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ที่ดี หากยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนควรหาทีมปรึกษาที่ดีในการช่วยวางแผนตลาดอย่างครบวงจร

Loading

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *