การเมืองพ่นพิษ! ไทย-เยอรมัน-อเมริกา ‘จ่อเลิกกัญชาเสรี’ หลังการเมืองเปลี่ยนขั้ว
1 min read
กัญชาโลกป่วน! เมื่อประเทศผู้นำกัญชาจ่อยกเลิกนโยบายเสรี เล็งคุมเข้มสารพัดกฎแกณฑ์หลังการเลือกตั้งได้รัฐบาลเปลี่ยนขั้ว เยอรมันเตรียมยกเลิกปลูกกัญชาทุกบ้าน-ไทยอาจเลิกกัญชาสันทนาการ-ส่วนอเมริกากัญชายังไม่พ้นบัญชียาเสพติดประเภทที่ 1 ส่งผลกระทบแรงกดดันไปสู่ประเทศที่กำลังจะเปิดเสรีกัญชา เช่น ฝรั่งเศส-โปรตุเกส เตรียมยกเลิกเสรีเชิงการแพทย์ ไม่อนุญาตให้คนไข้ใช้ CBD
บริษัทกัญชารายใหญ่จำนวนมากทยอยแจ้งยกเลิกจดประกอบกิจการในประเทศเยอรมัน หลังผลการเลือกตั้งใหม่ที่พรรคฝ่ายขวาเอาชนะพรรคฝ่ายก้าวหน้า ด้าน Finn Haensel ผู้บริหารบริษัทกัญชารายใหญ่อธิบายว่า รัฐบาลใหม่เยอรมันชนะเพราะสโลแกนหาเสียงที่ต้องการยกเลิกกัญชาเสรี ดั้งนั้นจึงมีแนวคิดทั้งห้ามมีร้านค้ากัญชาสันทนาการ ห้ามปลูกกัญชาทุกบ้าน ห้ามผู้ใหญ่บริโภคกัญชา โดยคงเหลือไว้เฉพาะกัญชาเชิงการแพทย์เพื่อสุขภาพ ดังนั้นจึงถือเป็นการก้าวถอยหลังกลับไป 1 ก้าว แม้จะปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดได้แล้ว ส่งผลให้แผนการพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชาหลายอย่างหยุดชะงักลงไป จนเป็นเหตุให้เอกชนรายใหญ่ถอนตัว
การเมืองกัญชาพ่นพิษ ยังเกิดขึ้นที่ประเทศไทยภายหลังได้รัฐบาลใหม่สีแดงที่เคยหาเสียงการยกเลิกปุ๊นเสรี พร้อมท่าทีแข็งกร้าวของกระทรวงสาธารณสุขที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนและมีแนวโน้มที่กัญชาจะเปลี่ยนแปลงไปในหลายทิศทาง ตราบใดที่ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ยังไม่เสร็จ กัญชาสามารถกลับเป็นยาเสพติดได้ทุกเมื่อ และถึงแม้จะมีกฎหมายฉบับใหม่แต่เกณฑ์เงื่อนไขยังคงมุ่งไปในทางเชิงการแพทย์ รวมทั้งสายเขียวบางส่วนกังวลกับการกำหนดเงื่อนไขใหม่ที่มุ่งผูกขาดผู้ผลิตกัญชาเพียงไม่กี่ราย
ส่วนพี่ใหญ่ด้านกัญชาอย่างสหรัฐอเมริกา เกิดสภาวะหุ้นตกอย่างแรง! หลังได้ประธานาธิบดีคนใหม่ โดยเฉพาะหุ้นบริษัทผลิตกัญชารายใหญ่ร่วงต่อเนื่อง 7% หลังเสี่ยงเผชิญความไม่แน่นอนจาก โดนัล ทรัมป์ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะปลดล็อกกัญชาจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 1 ทั้งยังแต่งตั้งผู้มีอำนาจมาดูแลทั้งจากอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกาและสำนักงานปราบปรามยาเสพติด (DEA) ซึ่งล่าสุดผู้ถูกคัดเลือกจากสองหน่วยงานปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเรื่องการตัดสินใจนโยบายทางกัญชา อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่าผู้อำนวยการ DEA คนใหม่มีแนวคิดต่อต้านการเปิดเสรีกัญชาอีกด้วย
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศผู้นำกัญชา ย่อมส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพการปลดล็อกกัญชาเสรีในประเทศอื่นๆทั่วโลก ตัวอย่างเช่นในฝรั่งเศส ล่าสุดประกาศเตรียมยกเลิกโครงการกัญชาเชิงการแพทย์ที่มีผู้ป่วยกว่า 1,800 คน หลังจากถูกตัดงบประมาณโดยรัฐบาล ท่ามกลางกระแสการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีสาธารณสุขมากถึง 7 คน ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาแม้ฝรั่งเศสจะมีประชากรสายเขียวมากที่สุดในยุโรป ขณะที่ประเทศโปรตุเกสสำนักงานยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแห่งชาติโปรตุเกส (IP) ได้สั่งถอนผลิตภัณฑ์ยากัญชาและเครื่องสำอางกัญชาหลายรายการที่มีส่วนผสมของ CBD ห้ามบริโภคทันที โดยมีเหตุผลว่าผลิตภัณฑ์กัญชาเหล่านี้ไม่เป็นไปตามกฎหมายของยุโรป มาตรการฉับพลันดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างมาก เนื่องจากยอดผู้ใช้และขนาดตลาด CBD เติบโตขึ้นอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมาในโปรตุเกส แต่ด้วยความไม่แน่นอนทางการเมืองจึงมีนโยบายที่สวนทางกับความต้องการของประชาชน