ไทยขึ้นแท่น! ธุรกิจกัญชามากที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐอเมริกา

ประเทศไทยกลายเป็นชาติที่มีผู้ประกอบการด้านกัญชามากที่สุดในโลก จากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนายแพทย์เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการออกใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการกัญชารวม 17,894 ราย ขณะที่ข้อมูลจาก Pew Research ชี้แจงว่าสหรัฐอเมริกามีผู้ประกอบการกัญชาที่ได้รับอนุญาตอยู่ที่ 15,000 ราย ซึ่งแปลว่าประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจสายเขียวมากกว่าอเมริกาถึง 19%

อุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทยปัจจุบันถือเป็นอันดับที่ 3 ของโลกด้านมูลค่าการตลาดที่ถูกบันทึกโดยสถาบันด้านสถิติ Statista นับเป็นความก้าวหน้ากว่าประเทศเมืองหลวงกัญชาอย่าง เนเธอร์แลนด์ (อัมสเตอร์ดัม) และประเทศที่เปิดเสรีกัญชามานานแล้วอย่าง สเปนและอุรุกวัย เฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ตเพียงแห่งเดียว สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านกัญชาได้สูงกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี เป็นข้อมูลที่เปิดเผยโดย นายปูรณ์วริทธิ์ หวังภัทราวานิช นายกสมาคมกัญชาภูเก็ต ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ต้องการพัฒนาระเบียงท่องเที่ยวภาคใต้ให้เป็นสถานท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก หรือ Global Wellness Destination ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเคยส่งเสริมให้กัญชาไทยเป็นหนึ่งในจุดขายฝั่งอันดามัน Andaman Wellness Tourism Corridor

ที่ผ่านมาทั่วโลกรับรู้ข้อมูลเพียงแต่ว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีธุรกิจด้านกัญชามากที่สุดในโลกด้วยร้านค้ามากถึง 15,000 แห่ง พร้อมด้วยมูลค่าเม็ดเงินหมุนเวียนปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท โดยมีความหนาแน่นของธุรกิจสายเขียวกระจุกตัวอยู่เยอะแถว West Coast และ Northeast รวมถึงในรัฐที่อยู่ห่างไกล เช่น มิชิแกน โอคลาโฮมา และโคโลราโด และมีธุรกิจมากที่สุดอยู่ที่แคลิฟอร์เนียจำนวน 3,659 แห่ง ขณะที่ประเทศไทยมีธุรกิจกัญชากระจุกตัวมากที่สุดอยู่ในเมืองท่องเที่ยว อาทิ ภูเก็ต พัทยา กรุงเทพ เชียงใหม่ และเกาะสมุยเป็นต้น ด้วยความหลากหลายทางด้านบริการตั้งแต่ นวดกัญชาสมุนไพร โรงแรมกัญชา คลินิกกัญชา อาหารกัญชา ไปจนถึงสถานบันเทิงยามค่ำคืน ต้องยอมรับว่าความก้าวหน้าของประเทศไทยไม่น้อยหน้ากว่าชาติใดในโลก และยืนหนึ่งเป็นผู้นำกัญชาในทวีปเอเชีย

วันนี้กัญชาไทยกลายเป็น Soft Power ด้านการท่องเที่ยว ดึงดูดสายเขียวทั่วโลกให้อยากเข้ามาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ-ปุ๊นไทย

ผู้บริหาร Green house Seed Co บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านกัญชา เปิดเผยกับ Channel Weez Thailand ว่า ความก้าวหน้าของการปลดล็อกกัญชาเสรีในไทยนั้นก้าวหน้ากว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากประเทศไทยเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนทั้ง การผลิต การแปรรูป และการจำหน่าย โดยไม่มีการกำกับดูแลเข้มงวด ส่งผลให้อุตสาหกรรมในภาพรวมเติบโตแบบก้าวกระโดด แตกต่างจากอัมสเตอร์ดัมแม้กัญชาจะถูกกฎหมาย แต่การบังคับใช้สับสนเนื่องจากรัฐอนุญาตให้ขายได้แต่ห้ามปลูก จึงเป็นช่องโหว่ให้ตลาดกัญชาใต้ดินและการลักลอบนำเข้ากัญชาเติบโตมาก อีกทั้งมาตรการเข้มงวดยังฉุดรั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมในภาพรวม ดังนั้นพืชเศรษฐกิจใหม่นี้จึงมีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อีกมาก พอๆกับซูเปอร์สตาร์สายเขียวระดับโลกที่จะเข้ามาช่วยโปรโมตภาพลักษณ์กัญชาไทยในอนาคต ซึ่งล่าสุด Wiz Khalifa ก็ได้กล่าวไว้ว่า “เขาชอบการสูบกัญชาที่ประเทศไทย หากเกิดอะไรขึ้นทั่อเมริกา เขาจะย้ายมาอยู่ที่นี่แน่นอน”