5 วิธีต้านหิวสายเขียว
1 min read
5 วิธีต้านหิวสายเขียว
วันนี้มาแชร์ 5 วิธีแก้อาการกินไม่หยุดของสายเขียว! 5 ways to beat munchie! ก่อนที่อาหารและขนมของคุณจะหมดตู้เย็น!
1) เตรียมพร้อมก่อนเติม!
คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความ munchie ได้ แต่คุณสามารถชะลอมันได้ เพียงแค่กินอาหารรองท้องก่อนจะเริ่มกิจกรรมสมุนไพร ลองกำหนดเวลาเติมในช่วงหลังอาหารมื้อหลัก เช่น มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือแม้แต่เวลาก่อนนอน ตลอดจนหาขนมคบเคี้ยวมาใช้บรรเทาความหิวก่อนที่สมองของคุณจะกดสั่งพิซซ่าถาดใหญ่.
2) กิจกรรมต้องเข้า!
ความหิว munchie เกิดจากเอฟเฟคต์ของสมุนไพรที่สั่งการให้สมองของคุณคิดถึงแต่ขนมหวาน ลองฝึกร่างกายของคุณให้จดจ่อกับสิ่งอื่นโดยหากิจกรรมทำหลังจากเติมสมุนไพร ไม่ว่าจะ ทำงานบ้าน ทำงานอดิเรก วาดรูป ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น เพื่อดึงความสนใจให้สมองของคุณจดจ่อกับมันมากกว่าคิดถึงแต่อาหาร
3) ลองล้างปากมั้ย?
การแปลงฟันและการบ้วนปากด้วยน้ำยาล้างปากสามารถลดความอยากอาหารได้จริง โดยเฉพาะการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีกลิ่นมินต์อันแสนสดชื่น กลิ่นของมันจะช่วยให้คุณลืมนึกถึงอาหารอันแสนอร่อยไปเลย กลิ่นมินต์จะช่วยขับกล่อมการรับรสชาตให้ไม่นึกถึงกลิ่นอื่นๆอีกหลังจากคุณบ้วนปาก
4) ออกกำลังกายกันเถอะ!
เติมสมุนไพรให้สุขภาพดี! การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็น เดินเร็ว วิ่งจ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ กิจกรรมกีฬาง่ายๆเหล่านี้ช่วยลดความอยากอาหารได้ดีทีเดียว มันจะดีกว่ามากถ้าคุณไปออกกำลังกาย exercise ก่อนที่คุณจะเติมสมุนไพร นอกจากได้สุขภาพที่ดีแล้วยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่ก่อนที่คุณจะ munchie ได้อีกด้วย
5) กินแมร่งเลย! 555+
ข้อสุดท้ายสำหรับคนที่หยุดกินไม่ได้ 555+ ถ้าต่อต้านไม่ได้ก็เข้าร่วมมันเลย เมื่อ munchie คุณสามารถกินได้นะ แต่เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพมาก่อนอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือขนมหวานแคลอรี่สูง ทำไมคุณไม่ลองกิน ฟริทตาตาร์ผักโขม หรือผลไม้สดเพื่อสุขภาพดูล่ะ? มันเป็นประโยชน์มากกว่าการสั่งพิซซ่าหรือไก่ทอด KFC อีกทั้งความ munchie จะช่วยให้อาหารเพื่อสุขภาพเหล่านั้นอร่อยขึ้นอีกด้วย รวมถึงพวก edible เราแนะนำให้คุณใช้น้ำมันสกัดมะพร้าวแทนที่จะกินกัมมี่หวานน้ำตาลสูง
สุดท้ายแล้ว อาการ munchie หากผู้ป่วยใช้มันเพื่อให้กินอาหารได้เพิ่มขึ้นคือข้อดี แต่หากคุณ munchie มากเกินไป คุณจะรื้อค้นตู้เย็นได้ทั้งคืน ซึ่งแคลอรี่ส่วนเกินทำให้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วยปัญหาทางสุขภาพ #munchie#munchies #420
ขอบคุณภาพจาก leafly